กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – หุ้นไทย-ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวกแรงหนุนจากการที่สหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงการค้า ด้านเงินบาทอ่อนค่า
หุ้นไทย เปิดเช้านี้ (13 พ.ค.) บวก 20 จุด ตามตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดบวกแรงหนุนจากการที่สหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุม Thomas Laubach Research Conference ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในวันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ค.นี้ เวลา 08.40 น. ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับเวลา 19.40 น.ตามเวลาไทย
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,149.53 จุด เพิ่มขึ้น 505.27 จุด หรือ +1.34%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,386.23 จุด เพิ่มขึ้น 16.99 จุด หรือ +0.50% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง เปิดที่ระดับ 23,494.44 จุด ลดลง 55.02 จุด หรือ -0.23%
ขณะที่หุ้นไทย เปิดบวก บวก 20 จุด และเมื่อเวลา 10.09 น. ย่อลงเล็กน้อย บวก 16.15 จุด ดัชนีเคลื่อนไหว ที่ 1,227.09 จุด นับว่าหุ้นไทยสดใส ตามหุ้นทั่วโลก หลังจีน-สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงยอมลดภาษีศุลกากรประเทศละ 115% ช่วง 90 วัน ส่งผลให้ภาษีของสหรัฐฯ เก็บจากสินค้าจีนลดลงเหลือ 30% จากเดิม 145% ขณะที่จีนเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ เหลือ 10% จากเดิม 125% ทำให้ตลาดคลายความวิตกสงครามการค้า
จากข้อตกลงการค้าที่คลี่คลาย ส่งผลให้สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% ในวันจันทร์ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำ ซึ่งเป็น สินทรัพย์ที่ปลอดภัยและดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. ร่วงลง 116 ดอลลาร์ หรือ 3.47% ปิดที่ 3,228.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่ทองคำไทย สมาคมค้าทองคำ ประกาศครั้งแรกวันนี้ขยับขึ้น 100 บาท/บาททองคำ ทองแท่งขายออก 51,100 บาท ทองสำเร็จรูปขายออก 51,900 บาท เนื่องจากราคา GOLD SPOT ขยับขึ้นเล็กน้อยจากปิดตลาดวานนี้ โดยเคลื่อนไหว 3,229 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เงินบาทอ่อนค่าที่ประมาณ 33.42 บาท/ดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.38 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงหนัก” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ 33.02 บาทต่อดอลลาร์ (ระดับปิด ณ วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม) แรงหนุนจากภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน หลังสหรัฐฯ กับจีนบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราว ซึ่งภาพดังกล่าวได้ทำให้ ผู้เล่นในตลาดทยอยคลายกังวลความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงหนัก และทยอยลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการเดินหน้าลดดอกเบี้ยของเฟด จนล่าสุด ผู้เล่นในตลาดมองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้ง ในปีนี้ (นักวิเคราะห์บางส่วนถึงกับปรับเปลี่ยนมุมมองการลดดอกเบี้ยจากกลับมาลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคม เป็นเดือนธันวาคม) นอกจากนี้ เงินบาทยังถูกกดดันเพิ่มเติมจากการปรับตัวลดลงของราคาทองคำ (XAUUSD) ที่มีจังหวะย่อตัวลงไปถึงโซน 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามสถานการณ์ทางการเมืองของไทยที่เริ่มมีภาพของความไม่แน่นอนปรากฏขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนเป็นสำคัญ โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทมีกำลังมากขึ้น หลังเงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุโซน 33.00 บาทต่อดอลลาร์ และโซน 33.30 บาทต่อดอลลาร์ ได้สำเร็จ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.95-33.75 บาท/ดอลลาร์.-511-สำนักข่าวไทย