ทำเนียบรัฐบาล 22 พ.ย.- ศบค.เฝ้าระวัง 5 จังหวัดภาคใต้ติดเชื้อเกิน 100 คนต่อวัน จับตา 5 จังหวัดในภาคอื่นแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง ขณะ กทม.พบ สถานประกอบการขึ้นทะเบียนผ่านเกณฑ์ พร้อมเปิด 225 แห่ง
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีการติดเชื้อเกิน 100 รายต่อวัน และผล ATK มากกว่าร้อยละ 5 ในการตรวจ ได้แก่ สงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด และบางจังหวัด เป็นจังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวยังคงมีการติดเชื้อภายในจังหวัดที่ยังต้องเฝ้าระวังสูง แม้อัตราการติดเชื้อดูเหมือนไม่สูง แต่ถ้าดูทิศทางใน 7 วัน หรือ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีทิศทางเพิ่มขึ้น ได้แก่ เชียงใหม่ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเกินร้อยรายแล้ว และมีแนวโน้มสูงขึ้น ขณะที่บางจังหวัดที่มีการติดเชื้อน้อยกว่าร้อยราย แต่ว่าทิศทางมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างชัดเจน ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก สิงห์บุรี และลำพูน ซึ่งเป็นจังหวัดที่กระทรวงสาธารณสุข เฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิด
ส่วนของผู้เสียชีวิตที่ ศบค.เน้นย้ำมาตลอด ว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง คือ ผู้สูงอายุ และมีโรคเรื้อรัง วันนี้ (22 พ.ย.) อยู่ที่ร้อยละ 93 และกลุ่มเด็กที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ต้องเน้นย้ำผู้ปกครองที่มีลูกหลานอายุ 12-17 ปี โดยเฉพาะภาคใต้ วัคซีนไฟเซอร์เข้าไปถึงพื้นที่แล้ว ในบางจังหวัดที่อาจจะมีการติดเชื้อน้อย ผู้สูงอายุอยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน แต่ต้องพึงระวังว่าตอนนี้ได้มีการเปิดบ้านเปิดเมือง มีการเดินทางเข้าพื้นที่ มีคนรู้จักบุคคลใกล้ชิด เพื่อนบ้าน เพื่อนที่คุ้นเคยอาจจะมีความเสี่ยงเดินทางไปในพื้นที่ จึงขอให้เน้นย้ำพาผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเหล่านี้เข้ารับวัคซีนเพื่อความปลอดภัย
สำหรับผู้ติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ ใน 10 จังหวัด ได้แก่ กทม. สงขลา นครศรีธรรมราช ราชบุรี สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ สมุทรปราการ ชลบุรี และยะลา ได้เน้นย้ำมาตลอดเรื่องงานประเพณี พิธีกรรมศาสนา อย่างงานบวช งานกฐิน ที่ร้อยเอ็ด งานศพที่กาญจนบุรี ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ 19 คน นอกจากนี้ ยังมีงานศพที่อุดรธานี ตำบลโนนสะอาด ก็มีการรายงานพบผลบวกแล้ว 7 ราย ขณะที่แคมป์คนงาน มีรายงานทั้งจังหวัดสระแก้ว ขอนแก่น ลำพูน เชียงใหม่ ในอำเภอแม่ริม อำเภอดอยสะเก็ด ซึ่งเน้นย้ำว่า เชียงใหม่ ก็เปิดรับนักท่องเที่ยวด้วย แต่ว่าการติดเชื้อภายในจังหวัดเป็นคลัสเตอร์ ชุมชนก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการติดเชื้อในโรงเรียนที่อุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี ส่วนกทม.ก็มีรายงานทั้งโรงงาน ตลาด และสถานประกอบการ
ส่วนของการรายงานของ กทม. วันนี้ (22 พ.ย.) มีการสำรวจสถานบันเทิงที่ขึ้นทะเบียนอยู่ใน กทม. 1,443 แห่ง เบื้องต้นสำรวจไปแล้ว 975 แห่ง มีการแนะนำให้สถานประกอบการเหล่านี้รีบเข้าไปดูรายละเอียดของ Thai Stop covid Plus ที่เว็บไซต์ กรมอนามัย เพื่อศึกษาข้อปฏิบัติว่า จะทำให้สถานบริการเข้าเกณฑ์ covid free setting ปลอดภัยได้อย่างไร หากยังทำไม่ได้ ยังมีเวลาที่จะสามารถปรับให้สถานการณ์นั้นคงที่ขึ้น ก็จะสามารถเปิดกิจการได้ และถ้าจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสถานที่ระบบระบายอากาศ ก็จะมีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเข้าไปช่วยดูแลสนับสนุนให้สถานประกอบการเหล่านี้สามารถปฏิบัติตามมาตรฐาน SHA plus โดยล่าสุด ในกรุงเทพฯ มีสถานบริการที่พร้อมเปิดตามมาตรฐาน 225 แห่ง หรือ 23%
ขณะเดียวกัน เน้นย้ำให้สถานประกอบการ โดยเฉพาะสถานบันเทิง ถ้าบุคลากร พนักงาน ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ให้รีบพาบุคลากรเหล่านี้ไปรับวัคซีนโดยด่วน และหากมีการรับพนักงานใหม่ ต้องสอบถามเรื่องการฉีดวัคซีน และรีบพาไปฉีดวัคซีนด้วย.-สำนักข่าวไทย