ขสมก.เพิ่มการเดินรถเป็นวันละ 20,000 เที่ยว รับเปิดประเทศ 1 พ.ย.

กรุงเทพฯ 31 ต.ค. -ขสมก. กลับมาเพิ่มการเดินรถเป็นวันละ 20,000 เที่ยว เดินรถกะสว่าง รองรับการเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายนนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลัง คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) หรือ ศบค. มีมติเห็นชอบ ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ ยกเว้นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จำนวน 7 จังหวัด รวมทั้ง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมการให้บริการ รองรับการเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564


นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านการบริหารจัดการเดินรถ ด้านพนักงานประจำรถ และด้านรถโดยสารประจำทาง เพื่อรองรับการเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ด้านการบริหารจัดการเดินรถ


  1. ในเส้นทางปกติ จัดรถออกวิ่ง วันละ 2,886 คัน จำนวน 20,000 เที่ยว
  2. จัดเดินรถบริการตลอดคืน (รถกะสว่าง) ตามปกติ จำนวน 23 เส้นทาง โดยเริ่มให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2564
  3. จัดเดินรถเชื่อมต่อท่าอากาศยาน จำนวน 6 เส้นทาง รวม 60 คัน ดังนี้
    • สาย A 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สถานีรถไฟฟ้า BTS จตุจักร วันละ 16 คัน
    • สาย A 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วันละ 12 คัน
    • สาย A 3 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สวนลุมพินี วันละ 8 คัน
    • สาย A 4 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สนามหลวง วันละ 8 คัน
    • สาย S 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – สนามหลวง วันละ 6 คัน
    • สาย 555 รังสิต – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันละ 10 คัน

ด้านพนักงานประจำรถ

  1. จัดพนักงานประจำรถ (พนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร) เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จำนวน 9,000 คน คิดเป็น 98% ของพนักงานประจำรถทั้งหมด
  2. ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ความดันโลหิต และอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้ง ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร พร้อมทั้งกำชับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดฯ อย่างเคร่งครัด
  3. ฝึกทักษะภาษาอังกฤษ ให้กับพนักงานประจำรถทุกคน โดยเน้นพนักงานประจำรถโดยสาร เชื่อมต่อท่าอากาศยาน ได้แก่ สาย A1, A2, A3, A4, S1 และสาย 555 เป็นกรณีพิเศษ

ด้านรถโดยสารประจำทาง

  1. ตรวจเช็คสภาพรถโดยสาร ให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี ตามมาตรฐานคุณภาพบริการ ISO 9001 : 2015 และให้พนักงานขับรถ ตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสาร และอุปกรณ์ส่วนควบ ก่อนนำรถออกวิ่งให้บริการ
  2. ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นทำความสะอาดภายใน รถโดยสาร และใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น เบาะที่นั่ง ราวจับ กริ่งสัญญาณ เป็นต้น ทั้งก่อนและหลังนำรถออกวิ่งให้บริการ พร้อมทั้งติดตั้งขวดเจลแอลกอฮอล์ สำหรับให้ผู้ใช้บริการ ล้างมือบริเวณประตูทางขึ้น
  3. ติดสติกเกอร์ “BMTA PASS” บริเวณกระจกด้านหน้า และประตูรถตู้โดยสารประจำทางที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 10 ปี ที่อยู่ในการกำกับดูแลของ ขสมก. เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในการสังเกตรถตู้โดยสารที่มีความปลอดภัย ก่อนตัดสินใจใช้บริการ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ