นครราชสีมา 20 ต.ค. – เจ้าหน้าที่เสริมเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตลอดทั้งวัน ท่ามกลางการลุ้นอย่างใจจดใจจ่อของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะระดับน้ำลำตะคองและแนวพนังกั้นน้ำต่างกันไม่มาก
เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ระดมเครื่องสูบน้ำกว่า 30 เครื่อง มาติดตั้งเร่งเดินเครื่องสูบน้ำออกจากพื้นที่ด้านหลังโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หลังมีมวลน้ำเล็ดลอดเข้ามาตามรอยรั่วจำนวนมากตลอดแนวพนังกั้นน้ำ โดยกองพลทหารราบที่ 3 เข้ามาตั้งศูนย์ประสานงาน ถือเป็นกำลังหลักในการกรอกกระสอบทรายนำมาอุดรอยรั่วและเสริมความสูงของพนังกั้นน้ำ ซึ่งมีบุคลากรทางการแพทย์ทยอยมาดูเหตุการณ์ด้วยความกังวล
เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายวางเป็นแนวป้องกันใกล้กลุ่มอาคารด้านหลังไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าพื้นที่ด้านใน ขณะเดียวกันการปิดกั้นน้ำแบบนี้ยังสามารถนำหัวเครื่องสูบน้ำจุ่มเพื่อสูบกลับเข้าลำตะคองได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม มวลน้ำบางส่วนได้ทะลักเข้าท่วมแล้วหลายกลุ่มงาน ได้แก่ งานซักฟอก ระบบบำบัดน้ำเสีย ขยะมูลฟอย งานสวนสนาม งานเครื่องกำเนิดไอน้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความยากลำบาก มวลน้ำยังได้ประชิดอาคารเภสัชกรรม และศูนย์มะเร็ง คนไข้ที่มีคิวฉายรังสี ต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน
ส่วนบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลที่น้ำท่วมถนนช้างเผือกตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เจ้าหน้าที่และคนไข้ต้องอาศัยรถบรรทุกของส่วนราชการ และหน่วยกู้ภัย เข้าออกโรงพยาบาล คนไข้ที่มีนัดวันนี้แต่ไม่เร่งด่วน เจ้าหน้าที่เลื่อนนัดออกไป 1 สัปดาห์
ขณะที่ชุมชนหน้าโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ถูกน้ำท่วมสูง หลายร้านค้าขนย้ายของออกทั้งคืน ต้องปิดบริการไปโดยปริยาย เบื้องต้นมีชุมชนในตัวเมืองท่วม 12 แห่ง กว่า 2,000 ครัวเรือน
ถูกน้ำท่วมเข้าสู่วันที่ 5 แล้ว วันนี้น้ำขึ้นสูงสุดราว 50 เซนติเมตร หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ลำคลองบริบูรณ์ และคลองชลประทาน น้ำจึงเอ่อล้นเข้าท่วมเป็นรอบที่ 3 แล้ว เสียหาย 300 หลังคาเรือน จากทั้งหมด 500 ครัวเรือน ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปช่วยเหลือ ประชาชนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในบ้าน และต้องประกอบอาหารเอง โดยอาศัยวัดหมื่นไวย์ พื้นที่สูงกลางหมู่บ้าน เป็นที่จอดรถ และเข้าห้องน้ำ
ทางผู้ใหญ่บ้านวอนให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยตั้งโรงครัวที่วัดหมื่นไวย์ เพื่อประกอบอาหารให้ชาวบ้าน เพราะบางจุดน้ำท่วมสูง ไม่สามารถออกจากบ้านได้.-สำนักข่าวไทย