แถลงการณ์ไว้อาลัย ต่อการจากไปของพระสันตะปาปา พระองค์ที่ 266

กทม. 22 เม.ย.-ประธานสภาประมุขบาทหลวง โรมันคาทอลิก แห่งประเทศไทย แถลงการณ์ไว้อาลัย ต่อการจากไปของพระสันตะปาปา พระองค์ที่ 266 ยกเป็นแบบอย่างแห่งการเป็นผู้ฟัง ให้เกิดโลกเกินสันติภาพ พร้อมนำคริสตชนจัดพิธีมิสซาขอบพระคุณ

เวลา 17.30 น. อาร์ชบิชอป ฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภากรณ์รัตน์ ประธานสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย บาทหลวงสุวัฒน์ เหลืองสะอาดและซิสเตอร์อันนา โรซา พระญาติ (น้องสาว) ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ซึ่งอยู่ประเทศไทยมากว่า 60 ปีปัจจุบันเป็น Sister อยู่ที่ โรงเรียนนารีวุฒิอำเภอบ้านโป่งจังหวัดราชบุรี และเคยรับเสด็จพระสันตะปาปา ในสมัยที่ส่งเสด็จมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2562 ร่วมแถลงข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ในนามของสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย


โดยอาร์ชบิชอป ฟรังซิสเซเวียร์ วีระ กล่าวว่า รู้สึกตกใจ ที่การออกมาพบปะประชาชน ณวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในนครวาติกัน จะเป็นคำสอนสุดท้าย ซึ่งพระองค์ยังคง สั่งสอนให้พวกเราทุกคน รู้จักรับฟังผู้อื่น

ซิสเตอร์อันนา โรซา พระญาติ (น้องสาว) ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส กล่าวว่า ตนเป็นลูกพี่ลูกน้องของสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ จึงสนิทกัน เมื่อทราบข่าวอาการสิ้นพระชนม์ ก็รู้สึกเสียใจ เพราะตนก็คงเหมือนกับคริสตจักรทั่วโลก พี่คิดว่าพระองค์ทรงหายดีแล้ว หลังออกจากโรงพยาบาลและสามารถออกมาพบปะประชาชนได้ ไม่คิดว่าจะเป็นการ ออกมา ครั้งสุดท้าย แต่พระองค์ ก็ได้ฝากคำสอน ให้พวกเราไว้มากมาย เราได้ปฏิบัติตาม ขอให้ช่วยกัน ดูแลคนยากไร้คนยากจน เพื่อให้หลุดพ้นจากความทุกข์ยาก


อาจารย์ชัยณรงค์ มณเฑียรวิเชียรฉายอดีตที่ปรึกษาสมณะกระทรวงสื่อสารสังคมนครรัฐวาติกัน แต่ว่า เวลา 7.35 น. (กรุงโรม) ตามเวลาท้องถิ่น หรือ (12.35 น. ตามเวลาประเทศไทย) สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสแห่งโรม ได้เสด็จกลับไปยังบ้านของพระบิดา หรือสิ้นพระชนม์ ด้วย พระชนมายุ 88 พรรษา ด้วยภาวะเส้นเลือดในสมองแตก หัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งตลอด พระชนมายุ พระองค์ทรงอุทิศพระชนม์ชีพเพื่อรับใช้พระเจ้าและคริสตจักร ซึ่งตนน่ะ เป็นหนึ่งในบุคคลที่อยู่ นครรัฐวาติกัน ในวันอีสเตอร์ และได้เห็นการเสด็จ ออกมาพบปะประชาชน ด้วย ซึ่งตนคิดว่า การที่พระองค์เสด็จออกมาพบปะกับประชาชนที่มีความศรัทธาในวันดังกล่าว เชื่อว่าพระองค์ มีความต้องการ ที่จะออกมา อย่างแท้จริง ยังทรงเตรียมบท บทเทศน์หรือคำสอน ให้ เพราะคดีนั้น อันเจโร โคมัสฟรี อดีตอัคร สมณราชแห่ง มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เป็นผู้ทำในการประกอบพิธีมิสซาในวันอีสเตอร์แทน โดยพระองค์เรียกร้อง ความสงบสุขให้ยุติความรุนแรงทั้งในพื้นที่ กาซ่าอิสราเอล และในยูเครน รัสเซีย

อย่างไรก็ตาม สำหรับอาร์ชบิชอป ฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภากรณ์รัตน์ ประธานสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย พร้อม ด้วย Sister อันนาโนซ่า เดินทางไปนคร รัฐวาติกัน เพื่อร่วมพิธี ปลงพระศพ ในวันพรุ่งนี้

สำหรับกำหนดการ วันนี้พี่อาสนวิหารอัสสัมชัญจะมีการประกอบ พิธีมิสซา ขอบพระคุณ แด่ดวงพระวิญญาณ พระสันตะปาปาฟรังซิส โดยยอาร์ชบิชอป ฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภากรณ์รัตน์ ประธานสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้เวลา 19:00 และในวันศุกร์ที่ 25 เมษายนนี้ ขนาดที่ประชาชนสามารถลงนามไว้อาลัยได้ ตั้งแต่ เวลา 10:00 น ถึง 16:00 น ของวันที่ วันที่ 23-26 เมษายน 2568 นี้ ณ สถานเอกอัครสมณะทูตนครนายระวาติกันประจำประเทศไทย


สำหรับ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ได้รับเลือกขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 แห่งพระศาสนจักร เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2013 ต่อจากสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 โดยทรงเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่มาจากทวีปอเมริกาใต้

ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เข้ารับการรักษาพระวรกายหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดทรงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงโรม เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ด้วยอาการปอดอักเสบและพักรักษาพระวรกายเป็นเวลานานถึง 38 วัน ก่อนที่จะทรงออกมาประทับยังสถานที่ประทับประจำตำแหน่ง

การสิ้นพระชนม์ของพระองค์เกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่พระองค์เสด็จออกจากโรงพยาบาลในกรุงโรม หลังทรงประชวรโรคปอดบวมจนกระทั่งสิ้นพระชนม์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาจะไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทเข้าสู่วาระการประชุมเจบีซีกับไทย

กรุงเทพ 5 มิ.ย. – รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 มิถุนายนตำหนิเหตุการณ์ยิงปะทะกับทหารไทย พร้อมประกาศนำข้อพิพาทเรื่องดินแดนในพื้นที่ 4 จุดต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยจะไม่นำเข้าวาระการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee- JBC) หรือ เจบีซี ไทย-กัมพูชา กลางเดือนนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนรากฐานแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนร่วมกันตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นช่วงระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในการเปลี่ยนชายแดนร่วมเหล่านี้ให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กัมพูชาได้ให้ความสำคัญกับการยุติปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวและมีการสูญเสียชีวิตของทหารผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของรัฐบาลกัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติเป็นที่ประจักษ์ในการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงการส่งข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเป็นคุณแก่กัมพูชาในปี 2505 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2556 ในข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ที่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 05:30 น. เกิดเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต […]

อดีตพระพรหมเมธี กลับไทยสู้คดีเงินทอนวัด หลังลี้ภัยนาน 7 ปี

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – อดีตพระพรหมเมธี กลับถึงไทยเช้านี้ เพื่อสู้คดีเงินทอนวัด หลังตกเป็นผู้ต้องหามาตั้งแต่ปี 2561 ทำให้ต้องลี้ภัยไปอยู่เยอรมนี นานถึง 7 ปี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีรายงานข่าวว่า พระจำนงค์ ธัมมจารี หรืออดีตพระพรหมเมธี อายุ 84 ปี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ต้องหาในคดีความผิดร่วมกันฟอกเงินจากคดีเงินทอนวัด เมื่อปี 2561 เดินทางจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี กลับประเทศไทย โดยมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตั้งแต่เวลา 06.30 น.ที่ผ่านมา หลังจากลี้ภัยไปอยู่ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่ปี 2561 หรือเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา การเดินทางกลับมายังประเทศไทยครั้งนี้ อดีตพระพรหมเมธีต้องการจะเข้าสู่กระบวนการต่อสู้คดีตามกฎหมาย ต่อมาอดีตพระพรหมเมธีได้เดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อมอบตัวต่อสู้คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ บริเวณชั้น 27 ขณะที่บรรยากาศที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในช่วงเช้าวันนี้ พบว่าเมื่อเวลา 10.40 น.ที่ผ่านมา มีพระสงฆ์ 2 รูป เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้สื่อข่าวจึงพยายามเข้าไปกราบสอบถามพระสงฆ์ทั้ง 2 รูป […]

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย