สธ.ย้ำฉีดไขว้ “ซิโนแวค-แอสตรา” ปลอดภัย

สธ.30 ส.ค.- สธ.ย้ำฉีดวัคซีนไขว้ “ซิโนแวค-แอสตรา” ปลอดภัยได้ภูมิคุ้มกันเดลตาสูง ส่วนบูสเตอร์ประชาชนพื้นที่เสี่ยงเข็ม3 เดือน พ.ย.นี้


นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงว่าขณะนี้มียอดผู้ฉีดวัคซีน ทั้งหมดกว่า30.9 ล้านโดสแล้ว ส่วนใน 13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีการฉีดวัคซีนครอบคลุม 97.1% ในผู้สูงอายุ ส่วนใน 64 จังหวัดมีฉีดในผู้สูงอายุ 35.2% แล้ว ในภาพรวมฉีดผู้สูงอายุ ไปแล้ว43.8% ทั้งประเทศ ซึ่งเป็นแนวทางมาตรฐานในการลดการป่วยหนักและเสียชีวิต ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ฉีดได้2เข็มถึงร้อยละ 108.1%

ประสิทธิผลของการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมในขณะนี้ยังแสดงให้เห็นว่าสามารถลดอัตราป่วยหนักและเสียชีวิตลงได้ โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป ตามกราฟจะเห็นว่า เส้นสีน้ำเงินที่แสดงอัตรา ป่วยตายจะลดลงอย่างมากเมื่อผ่านจุดตัดกับเส้นสีส้มซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ครอบคลุมของการฉีดวัคซีน เช่นเดียวกับกราฟเส้นสีเหลืองที่แสดงอัตราการป่วยหนักก็ลดลงเช่นกัน เช่นเดียวกับสัดส่วนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง,อัตราป่วยตาย,และความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนในจังหวัดอื่นๆสัปดาห์ที่ 20-34 ก็ลดลงเช่นกัน จึงถือเป็นแนวโน้มที่ดี ต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับว่า เราจะมีปริมาณวัคซีน และความสามารถในการฉีดวัคซีนจะทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่


สำหรับการจัดหาวัคซีนเดือน ส.ค.-ธ.ค.จะเป็นวัคซีนที่มีแผนส่งมอบจำนวน 124 ล้านโดส หากรวมกับซิโนฟาร์มและโมเดอร์นาจะได้ 140 ล้านโดส ทำให้มาตรการควบคุมโรคเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจเปิดประเทศอย่างปลอดภัย มีความเป็นจริงมากขึ้น

ทั้งนี้ ตามไทม์ไลน์
เดือน ส.ค.ฉีดให้ได้ 70% เข็มหนึ่งใน 608 12 จังหวัด
เดือน ก.ย.มากกว่าหรือเท่ากับ 70% เข็มหนึ่งใน 608 ทุกจังหวัด
เดือน ต.ค.มากกว่า = 70% ครบ 2 เข็มใน 608 และมากกว่า 50% เข็ม 1 ทั้งประเทศรวมเด็ก
เดือน พ.ย.70% เข็ม 1 ประชาชนทั้งประเทศและเข็ม 3 พื้นที่เสี่ยง
เดือน ธ.ค. 70% ครบ 2 เข็ม + เข็ม 3 ทั้งประเทศ

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า สายพันธุ์เดลตาระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม 2.5 เท่า ระบาดเร็วเท่ากับโรคอีสุกอีใส วัคซีนอย่างเดียวไม่พอที่จะหยุดแพร่เชื้อต้องอาศัยมาตรการด้านสาธารณสุขร่วมด้วย


ส่วนกรณีองค์การอนามัยโลก มีข้อพิจารณาให้ฉีดวัคซีนแบบไขว้ว่าได้หรือไม่ นั้น หมายความว่าองค์การอนามัยโลกให้หน่วยงานสาธารณสุขของประเทศพิจารณาฉีดวัคซีนแบบไขว้ได้แต่แนะนำไม่ให้ประชาชนเลือกชนิดไขว้เองซึ่งผลการศึกษาของไทยก็ชัดเจนว่าใช้สูตรซิโนแวค1-แอสตราเซเนกา 2 และบุคลากรทางการแพทย์เองก็เลือกแอสตราฯ กระตุ้นเข็ม3 พบว่ามีภูมิขึ้นสูงถึง 271.1

สำหรับประชาชนทั่วไป ในพื้นที่เสี่ยงคาดว่า จะได้รับเข็ม3กระตุ้นในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งต้องขอศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมว่าคณะผู้เชี่ยวชาญจะบริหารจัดการปริมาณวัคซีนอย่างไร ส่วนเดือน ธ.ค.เข็ม3จะกระจายไปทั่วประเทศ

ส่วนกรณีมีผู้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ที่ศรีราชา แล้วภายใน 24 ชั่วโมงเสียชีวิต น่าจะเป็นการรายงานข่าวที่คลาดเคลื่อน ข้อเท็จจริงคือเป็นผู้มีโรคเรื้อรัง น้ำหนักตัวมาก มีความเสี่ยงน่าจะเป็นการฉีดไฟเซอร์เข็มที่ 1 ไม่ใช่เป็นเข็ม3 . -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

พายุลูกเห็บถล่มโคราช

โคราชอ่วม พายุลูกเห็บพัดถล่มรุนแรง “พิมาย-ประทาย” กองน้ำแข็งขาวโพลน ต้นไม้โค่นล้มหลายจุด ชาวบ้านบอกไม่เคยเจอพายุลูกเห็บหนักขนาดนี้มาก่อน

ล่าโจรชิงทอง 30 เส้น กลางห้างฯ อุดรธานี

อุกอาจกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี คนร้ายสวมเสื้อไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อก ควงปืนปลอมบุกเดี่ยวจี้ชิงทองคำภายในร้านทอง ได้ไปถึง 30 เส้น ตำรวจเร่งตามล่าตัว

หนุ่มจีนฆ่าโหดคู่ขา อ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ”

หนุ่มจีนยอมรับฆ่าสาว LGBTQ+ เพราะถูกปฏิเสธร่วมหลับนอน และถูกถีบตกเตียง จึงโมโหแล้วบีบคอจนสิ้นใจตายคามือ ก่อนอ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ” เลยใช้กรรไกรกรีดหน้าอก ตัดหัวใจ คว้านซิลิโคน ออกมาไว้ข้างนอก ส่วนปอดที่หายไป ยืนยันไม่ได้แตะต้อง

เกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือในอิหร่าน-เสียชีวิตแล้ว 18 ราย

สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรง ที่อาจจะมีสาเหตุมาจากการระเบิดของวัสดุเคมี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 700 ราย โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น ที่ท่าเรือบันดาร์ อับบาส ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน