สธ.เตรียมชงซื้อไฟเซอร์ 20 ล้านโดส เข้า ครม. 17 ส.ค.นี้

ทำเนียบรัฐบาล 13 ส.ค. – สธ.เตรียมชงซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส เข้า ครม. 17 ส.ค.นี้ คาดส่งเข้าไทย สัปดาห์ที่ 3 เดือน ก.ย. ย้ำทำความเข้าใจประชาชน เร่งแก้เฟคนิวส์ใน 24 ชม. ลั่นทำตามระเบียบ-กฎหมาย ไม่มีอะไรต้องกลัว


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมผ่านระบบ Video Conference เพื่อการประชุมติดตามการบริหารจัดการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบ Home Isolation และ Community Isolation และการนำส่งผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่กรุงเทพฯ มีการร่วมมือกับทุกภาคส่วนได้ด้วยดี พร้อมขอบคุณทุกส่วน และทำงานให้ได้มาตรฐานเดียวกัน ทุกหน่วยงานต้องปรับปรุงการประชาสัมพันธ์ ศูนย์กลางขอรับความช่วยเหลื อรวมไปถึงการกำจัดขยะติดเชื้อ


นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ทุกหน่วยงานจะต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน ทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในทุกขั้นตอนกระบวนการทำงาน ทั้งการทำ bubble and seal การทำงานต้องได้รับความเห็นชอบและดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน การแก้ปัญหาแรงงาน การติดตามวัคซีนและยาใหม่ๆ ที่กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบและเสนอมา นอกจากนี้จะต้องเตรียมวัคซีนสำหรับช่วงปลายปีเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้มีการพูดคุยแล้ว

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ต้องทำให้ประชาชนเข้าใจ จึงจะแก้ปัญหาได้ ส่วนการหารือกับต่างประเทศ ก็ได้มีการหารือมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นมิตรที่ดีและสนับสนุนช่วยเหลือมาโดยตลอด นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง Fake news ต้องแก้ปัญหาภายใน 24 ชั่วโมง โดยย้ำว่า ทุกอย่างทำด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ตามระเบียบ กฎหมาย จึงไม่มีอะไรต้องกลัว ให้กำลังใจทุกคน ทุกระดับ รู้ว่าทุกคนทำงานหนัก

ขณะที่วัคซีนไฟเซอร์ กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า การฉีดวัคซีนดังกล่าวเป็นไปตามแผน สำหรับการจัดซื้อวัคซีน 20 ล้านโดส ซึ่งจะต้องมีการจ่ายเงินมัดจำ จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ 17 สิงหาคมนี้ และอีก 10 ล้านโดส จะดำเนินการนำเสนอ ครม.ต่อไป ซึ่งคาดการณ์ว่า วัคซีนลอตแรกที่จะสามารถจัดส่งให้ไทยได้จะอยู่ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายน 2564 โดยอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการตามสัญญา


ส่วนการผลิตวัคซีนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้ง mRNA และ subunit vaccine ซึ่งเป็นวัคซีนที่ผลิตจากชิ้นส่วนของไวรัส คาดการณ์ว่าภายในปีหน้าน่าจะมีผลที่ชัดเจน มีแนวโน้มที่ดี

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า จะสามารถจัดหาวัคซีนได้ตามเป้า 100 ล้านโดส และชุดตรวจ ATK ที่นำเข้าทั้งรัฐบาลและเอกชน และหลากหลายยี่ห้อ ต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานขององค์การอาหารและยาก่อน โดยกระทรวงพาณิชย์จะได้รับไปดูแลกรณีมีเอกชนนำเข้ามาจำหน่ายเอง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง