สธ.วอนอย่าให้ล็อกดาวน์อีก 2สัปดาห์ต้องเสียเปล่า

สำนักข่าวไทย 2 ส.ค.-ปลัดสธ.วอนอย่าให้ล็อกดาวน์ไปอีก 2 สัปดาห์ต้องเสียเปล่า ช่วยกันอยู่บ้าน ลดการออกนอกบ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมาตรการล็อกดาวน์ ให้เป็นผลเพิ่มอีกจากเดิม 20% เป็น 25% จะให้ระบบสาธารณสุข กลับมาดีขึ้น พร้อมเผยข้อมูลจาก CDC พบไวรัสเดลตาแรง 1คนป่วยแพร่โรคได้ถึง 8 คน ยังต้องเข้มมาตรการสวมหน้ากาก ล้างมือ ระยะห่าง


นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ปลัด สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ ทั่วโลก พบการติดเชื้อสะสม 199 ล้านคน ถือเป็นช่วงขาขึ้นที่เป็นผลมาจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตา โดยในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นประมาณ 4-6 แสนคนต่อวัน เสียชีวิตสะสม 4.24 ล้านคน คิดเป็น2.13% การติดเชื้อยังมีจำนวนมากในสหรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล รัสเซีย ถ้าเปรียบเทียบอัตราป่วยต่อประชากร 1 ล้านคน พบว่าสหรัฐฯ ติดเชื้อ 1 แสนกว่าคนต่อประชากรล้านคน อัตราตายอยู่ที่ 1,889 คน ต่อล้านประชากร ,อังกฤษ 8 หมื่นคนต่อล้านคน อัตราตาย 1,900 คนต่อล้านประชากร, มาเลเซียติดเชื้อ 3.4 หมื่นคนต่อประชากรล้านคน อัตราตาย 280 คนต่อล้านประชากร , อินเดีย 2.2 หมื่นคนต่อประชากรล้านคน อัตราตาย 305 คนต่อล้านประชากร,และไทย 9,048 คนต่อประชากรล้านคน มีอัตราตาย 74 คนต่อล้านประชากร

ปลัด สธ.กล่าวว่า วันนี้ไทยพบการติดเชื้อ 17,970 คน รักษาหาย 13,919 คน อยู่ระหว่างรักษา 208,875 คน และเสียชีวิต 178คน ผู้ป่วยใหม่ยังเพิ่มขึ้น และจากการผลการดำเนินการล็อกดาวน์ที่ผ่านมา 2 สัปดาห์ พบว่า ประสิทธิภาพการล็อกดาวน์อยู่ที่ 20 % หากเพิ่ม อีก 5% สถานการณ์การติดเชื้อ ทั้งในเรื่องของการรักษา การครองเตียง จะกลับมาสามารถรับมือได้ ช่วงโควิดมีการขยายเตียงถึง185,417 เตียง เป็นต่างจังหวัด 143,758 เตียง และกทม. 41,659 เตียง ทั่วประเทศ มีอัตราครองเตียง 70-80% ส่วน กทม.สูงเกือบ 90% เตียงเต็ม ทุกระดับสี สำหรับการฉีดวัคซีนขณะนี้สะสม 17,866,526 โดส ถือว่าฉีดได้ค่อนข้างดี และจะเร่งฉีดเพื่อลดอัตราป่วยหนักและตาย


ปลัด สธ.กล่าวต่อไปว่า หากเปรียบเทียบมาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้กับปีที่แล้วในอัตราการใช้รถยนต์ พบว่า รถยนต์ในท้องถนนทุกวันนี้ยังมีมาก ดังนั้นไม่อยากให้ล็อกดาวน์ในครั้งนี้ที่ขยายออกไปอีก 2สัปดาห์ ครอบคลุม 29 จังหวัด ต้องเสียเปล่า ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันอยู่บ้าน งดการเดินทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของมาตรการล็อกดาวน์ให้ได้25% ซึ่งจะคู่ ขนานกับการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ทำให้อัตราการป่วยและเสียชีวิตค่อยๆลดลง พร้อมเผยว่าข้อมูล จาก ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคสหรัฐฯ (US CDC )เปิดเผยว่า การติดเชื้อในสหรัฐอเมริกา พบเป็นสายพันธุ์เดลตา 90% พบในจำนวนผู้ป่วยถึง 74 % เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว จะเห็นได้ว่าวัคซีนยังสามารถเพิ่มจำนวนได้ แม้คนรับวัคซีนแล้วก็ตาม ดังนั้น มาตรการสวมหน้ากาก ระยะห่าง ล้างมือ ยังต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพราะเป็นการป้องกันโรคที่ดีที่สุด

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมป้องกันโรคสหรัฐฯ US CDC ระบุว่าสายพันธุ์เดลตา มีความสามารถในการแพร่โรคได้มากถึง 3 เท่า จากเดิมผู้ป่วย 1คน สามารถแพร่โรคทำให้เกิดการติดเชื้อได้ 3 คน แต่เดลตาทำให้ผู้ป่วย 1คน สามารถแพร่โรคได้ถึง 8 คน จึงเป็นสาเหตุที่ต้องช่วยกันลดการติดเชื้อ และในช่วงที่มีการขยายมาตรการล็อกดาวน์ อยากให้ทุกฝ่ายร่วมกัน อยู่บ้านให้มากที่สุด วางแผนออกจากบ้านให้น้อยลดลง เพื่อลดการแพร่เชื้อ หากอยู่บ้านที่มีคนสูงอายุ คนป่วย หากรู้ตัวว่าเป็นคนออกจากบ้านบ่อย ก็ควรสวมหน้ากาก เพื่อป้องกันคนอื่นติดเชื้อ และร้องขอให้ทุกหน่วยงาน ทั้งคนทำงาน ช่วย WFH ให้ได้ 100% ช่วง 2 สัปดาห์ถือเป็นเวลาทอง หากทำได้ ลดการติดเชื้อ ก็ปลอดภัยทั้งสังคม .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร