กรุงเทพฯ 19 ก.ค. – โฆษกกองทัพเรือ แจงถอนงบเรือดำน้ำ ลำที่ 2 และ 3 หวังสอดคล้องสถานการณ์โควิด และช่วยลดความขัดแย้งทางความคิดในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกองทัพเรือชะลอโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ลำที่ 2 และ 3 ของกองทัพเรือ โดย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ขอถอนไม่รับการจัดสรรงบประมาณของโครงการฯ ซึ่งปรากฏรายการอยู่ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 แล้วนั้น
พล.ร.อ.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ ได้ชี้แจงเหตุผลกับสื่อมวลชน มีความยาวกว่า 2 หน้า โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
กองทัพเรือ ขอชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ได้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ลำที่ 2 และลำที่ 3 ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ มูลค่ากว่า 22.89 ล้านล้านบาทนั้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมกำลังรบในยามปกติ จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและมีความจำเป็นต้องจัดหาเรือดำน้ำไว้ประจำการ จำนวน 3 ลำ จะสามารถปฏิบัติการได้ครอบคลุมทั้ง 2 ฝั่งทะเล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์วิกฤตของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 กองทัพเรือได้ให้ความสำคัญในการระดมสรรพกำลังทุกรูปแบบ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถเท่าที่จะกระทำได้ อาทิเช่น การจัดตั้งสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้แห่งแรก การจัดตั้ง รพ.สนาม การจัดกำลังพลสนับสนุน ศบค.ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดฯ การดูแลและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น ทั้งนี้ กลาโหมและกองทัพเรือไปพิจารณาถึงความเป็นไปได้ ประกอบกับกองทัพเรือได้ประเมินสถานการณ์ในภาพรวมร่วมกับกระทรวงกลาโหมแล้ว เห็นว่ารัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการช่วยเหลือประชาชนในยามทุกข์ยากเช่นนี้ เพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหาและทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดที่มีความวิกฤต กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาในส่วนของการดำเนินการด้านงบประมาณนั้น กองทัพเรือได้ส่งคืนงบประมาณในปี 2563 จำนวน 3,375 ล้านบาท ปี 2564 จำนวน 3,925 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้รัฐบาลสามารถบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดในภาพรวม ตามความจำเป็นเร่งด่วนต่อไป
สำหรับการดำเนินการเสนอของบประมาณจัดหาเรือดำน้ำเพิ่มเติมอีกจำนวน 2 ลำ ในปี 2565 กองทัพเรือได้พิจารณาถึงความเหมาะสมด้านงบประมาณที่ไม่เป็นการใช้งบประมาณแต่ละปีมากจนเกินไป โดยได้มีการเจรจากับทางฝ่ายจีนให้สามารถแบ่งจ่ายเงินสำหรับโครงการจัดหาเรือดำน้ำอีก 2 ลำที่เหลือ เป็นเวลาถึง 6 ปี ซึ่งสามารถจ่ายเงินงวดแรกในปีงบประมาณ 2565 ที่กำลังพิจารณานี้ เพียง 900 ล้านบาท จากยอดรวมจำนวน 22,500 ล้านบาท ของมูลค่าเรือดำน้ำทั้ง 2 ลำ ทั้งนี้ เงินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณปกติของกองทัพเรืออยู่แล้ว มิได้เป็นงบประมาณที่ขอใหม่แต่อย่างใด และจากนี้กองทัพเรือจะต้องไปดำเนินการเจรจากับรัฐบาลจีน เพื่อสร้างความเข้าใจถึงเหตุผลความจำเป็นของการชะลอโครงการดังกล่าว เพื่อไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และยังคงความพร้อมที่จีนจะให้การสนับสนุนความช่วยเหลือทางทหารกับกองทัพเรือต่อไป
สุดท้ายนี้ กองทัพเรือหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การพิจารณาของกองทัพเรือในครั้งนี้ จะเกิดประโยชน์แก่ประชาชนคนไทยในสถานการณ์ที่เหมาะสม ตลอดจนลดความขัดแย้งทางความคิด อันจะนำไปสู่การมีความสมัครสมาน สามัคคี ที่จะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้รอดพ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป. – สำนักข่าวไทย