ปัตตานี สั่งปิดพื้นที่เสี่ยงอีก 9 หมู่บ้าน เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย

ปัตตานี 3 ก.ค.-สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ปัตตานี พบผู้ป่วยใหม่สูงถึง 130 ราย เสียชีวิต 2 ราย พร้อมสั่งปิดพื้นที่เสี่ยงเพิ่มอีก 9 หมู่บ้าน

สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี พบผู้ป่วยรายใหม่สูงถึง 130 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมขณะนี้เพิ่มเป็น 2,723 ราย และพบผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 14 รายแล้ว ขณะที่ทางจังหวัดปัตตานีได้มีคำสั่งประกาศปิดพื้นที่เสี่ยงเพิ่มขึ้นอีก 9 หมู่บ้าน ใน 4 อำเภอ ทำให้ขณะนี้ จังหวัดปัตตานีมีพื้นที่เสี่ยงที่ต้องปิดหมู่บ้านแล้ว 26 หมู่บ้าน ใน 9 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.แม่ลาน อ.กะพ้อ อ.ไม้แก่น อ.ปะนาเระ อ.โคกโพธิ์ อ.มายอ อ.ทุ่งยางแดง และ อ.ยะหริ่ง มัสยิดถูกปิด 22 มัสยิดแล้ว


ส่วนกรณีดราม่าเรื่องแพทย์หลายรายโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับ จังหวัดปัตตานีมีเตียงไม่พอสำหรับคนไข้ ทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ต้องไปรักษาตัวต่อที่บ้านนั้น ด้านนายแพทย์รุซตา สาและ ผอ.รพ.สนามจังหวัดปัตตานี ได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า สำหรับเตียงรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ต้องยอมรับว่าบางช่วงมีผู้ป่วยติดเชื้อเป็นจำนวนมากต่อวัน โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมา มีผู้ป่วยติดเชื้อเกินหลักร้อยทุกวัน บางวันเกิน 200 ราย ทำให้เตียงไม่เพียงพอต่อผู้ป่วยจริง ๆ แต่ก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เพราะในแต่ละวันก็มีผู้ป่วยที่หายเดินทางกลับบ้านเช่นเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดปัตตานีได้มีการเตรียมแผนในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของโรงพยาบาลทั้ง 15 แห่งใน 12 อำเภอ โดยแต่ละแห่งจะมีเตียงรองรับผู้ป่วยจำนวน 100 เตียง ซึ่งขณะนี้ได้มีการเปิดเป็นโรงพยาบาลสนามของโรงพยาบาลแล้ว 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลทุ่งยางแดงและโรงพยาบาลหนองจิก จะมีการทยอยเปิดเรื่อย ๆ จนครบทั้ง 15 โรงพยาบาล แต่ขณะนี้มีพื้นที่เตรียมไว้ทำโรงพยาบาลสนามแล้วทุกแห่ง เพียงแค่รออุปกรณ์ทั้งเตียง เบาะ ผ้าปูที่นอน รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งขณะนี้ได้เร่งดำเนินการอยู่ คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะสามารถเปิดได้ทุกแห่ง ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ก็จะสามารถรองรับผู้ป่วยติดเชื้อของจังหวัดปัตตานีได้ทั้งหมด

กรณีที่ทางโรงพยาบาลโคกโพธิ์ ได้นำร่องให้ผู้ป่วยติดเชื้อที่ผ่านการ รักษาจากโรงพยาบาลแล้วอาการดีขึ้น แต่ยังมีเชื้อโควิดอยู่ ให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านนั้น ด้านนายแพทย์รุซตา เปิดเผยว่าในเรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อเป็นจำวนมาก จนโรงพยาบาลบางแห่งล้นจนไม่มีเตียงให้กับผู้ป่วยรายใหม่ที่เข้ารับการรักษา แต่ถ้าการขยายโรงพยาบาลสนามเสร็จแล้วตามแผน ก็ไม่อยากให้ผู้ป่วยกลับไปรักษาตัวที่บ้าน อยากให้รักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสนามมากกว่า เพราะง่ายต่อการดูแล อีกทั้งถ้าในอนาคต มีผู้ป่วยไปรักษาตัวต่อที่บ้านจำนวนมากขึ้น จะส่งผลให้ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องวัดความดัน ปรอทวัดไข้ รวมถึงเครื่องวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเส้นเลือด ซึ่งทางโรงพยาบาลจะต้องมอบให้กับผู้ป่วยทุกราย เพื่อให้ผู้ป่วยใช้วัดอาการของตัวเองในแต่ละวัน ซึ่งหากว่ามีผู้ป่วยจำนวนมากกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน ก็หมายถึง ต้องมีการมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นจำนวนมากเช่นกัน ดังนั้น ถ้าทางจังหวัดปัตตานีสามารถทำโรงพยาบาลสนามได้ตามแผนที่วางไว้ ผู้ป่วยที่อาการดีขึ้นควรรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสนาม เพื่อง่ายต่อการดูแลรักษา .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน