พังงา 26 มิ.ย.-โลมาเกยตื้นชายหาดเกาะทุ่งนางดำ 5 ตัว ว่ายน้ำกลับท้องทะเลได้แล้ว ส่วนอีก 8 ตัวที่ตาย จนท.เตรียมผ่าซากพิสูจน์ในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ทางชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่เกาะทุ่งนางดำ อ.คุระบุรี จ.พังงา แจ้งว่าได้พบเหตุการณ์ประหลาด มีฝูงโลมาว่ายน้ำเข้ามาเกยตื้นอยู่ในบริเวณหาดทุ่งนางดำ ม.5 ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าโลมาไม่ทราบชนิดตายอยู่บนชายหาด 8 ตัว ยังมีชีวิตติดอยู่บริเวณน้ำตื้นอีก 5 ตัวรวมทั้งหมด 13 ตัว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่นี้มาก่อน ล่าสุดพบว่าโลมาที่เกยตื้น 5 ตัว สามารถว่ายน้ำกลับสู่ท้องทะเลใหญ่ได้แล้ว และเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์จากศูนย์สัตว์ทะเลหายากจังหวัดภูเก็ตเตรียมผ่าซากพิสูจน์ในวันนี้ ขณะที่กลุ่มชาวบ้านต่างสงสัยถึงสาเหตุการตายของโลมาในครั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาเคยพบแค่ครั้งละตัว หรือสองตัวเท่านั้น คาดว่าน่าจะเป็นโลมากระโดดฝูงใหญ่ที่กลุ่มนักท่องเที่ยวเคยพบเห็นว่ายน้ำเล่นหากินอยู่ในบริเวณเกาะสุรินทร์ และเกาะสิมิลัน มีจำนวนกว่า 100 ตัว และน่าจะเกิดการหลงทิศเข้ามาหากินในช่วงน้ำทะเลขึ้นสูง เมื่อน้ำลงก็เกิดการเกยตื้นจนตายดังกล่าว
ขณะ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุข้อความว่า สองสามวันนี้มีเรื่องเยอะเลยครับ ฝูงวาฬเพชฌฆาตดำที่เกาะเต่า ฝูงโลมาเกยตื้นที่พังงา คราบน้ำมันแถวอันดามันเหนือ ฯลฯ แต่ตอนนี้ขอเน้นปะการังฟอกขาวที่ภาคตะวันออก เหตุผลตอบง่ายครับ เพราะโลกกำลังเน้นย้ำเรื่องนี้ ทั้ง G7 G20 และประชุม Cop26 ตอนปลายปีจะเป็นจุดตัดสินสำคัญสองเรื่องที่ทุกประเทศเน้นตอนนี้คือโลกร้อนและความหลากหลายที่กำลังหายไปอย่างเร็ว ระบบนิเวศที่เสื่อมโทรม รับมือไม่ได้กับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและท้องทะเล จะส่งผลต่อวิถีชีวิตของผู้คนอย่างรุนแรงผมเชื่อว่าตรงนั้นเป็นจุดพลิกผัน และหากอยากรับมือให้ได้ เราจำเป็นต้องเรียนรู้และหากอยากรู้ เราไม่ใช่แค่เพียงอ่านหรือเพียงทำตามเราต้องออกไปลอง ไปทำนำความรู้มีอยู่ทั่วไป แต่ความรู้จริงจะต้องเรียนจากครูใหญ่ชื่อทะเล แล้วจะมาเล่าให้เพื่อนธรณ์ฟังครับ.-สำนักข่าวไทย