ศิริราชชี้แจงกรณีไม่ได้ตรวจโควิดชายวัย 45

กรุงเทพฯ 29 เม.ย.- ศิริราชแสดงความเสียใจ พร้อมชี้แจงกรณีไม่ได้ตรวจโควิด-19 ชายวัย 45 จนต่อมาเสียชีวิต


จากกรณีผู้ป่วยชายไทยอายุ 45 ปีที่มีประวัติมาขอรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลศิริราช แต่ไม่ได้รับการตรวจ ต่อมาผู้ป่วยชายคนดังกล่าวได้เสียชีวิตนั้น รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ชี้แจงว่า โรงพยาบาลศิริราชได้ให้บริการการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-15.00 น. ณ คลินิกไข้หวัด (ARI Clinic) อาคารจอดรถ ชั้น 3 ตึกอุบัติเหตุ โดยให้บริการตรวจประมาณวันละ 320 รายซึ่งแนวทางการให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ที่สงสัยว่าติดเชื้อหรือมีประวัติสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ตามลำดับดังต่อไปนี้


1.ผู้มีความเสี่ยงสูงที่เคยได้รับการตรวจครั้งแรกไปแล้ว และจำเป็นต้องนัดมาตรวจซ้ำ14 วันหลังการตรวจครั้งแรก จำนวนประมาณวันละ 150 – 200 ราย


2.ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการผ่าตัดรักษาหรือทำหัตถการแบบฉุกเฉินเร่งด่วนที่ต้องได้รับการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ก่อนทำผ่าตัดหรือหัตถการทุกราย จำนวนประมาณวันละ 60 ราย


3.ผู้ป่วยที่มารับการตรวจตามหน่วยตรวจโรคต่าง ๆ และแพทย์ผู้ตรวจรักษาส่งตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 เพื่อวางแนวทางในการรักษาจำนวนประมาณวันละ 20 – 30 ราย


4.ผู้ป่วยใหม่ที่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการตรวจ เช่น ผู้ที่สงสัยสัมผัสเชื้อและอยู่ในช่วงเวลาที่ควรได้รับการตรวจตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรคหรือมีอาการที่เกี่ยวกับเชื้อโควิด-19 จำนวนวันละ 20 – 30 ราย



จากจำนวนการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ของโรงพยาบาลที่มีปริมาณมากกว่า 320 รายต่อวัน ทำให้สามารถเปิดรับการตรวจคัดกรองผู้ป่วยนอกรายใหม่ที่ไม่มีการนัดหมายล่วงหน้าได้เพียงวันละ 20-30 ราย

นอกจากนี้โรงพยาบาลศิริราชยังตัองทำการตรวจคัดกรองบุคลากรและนักศึกษาของโรงพยาบาลในกรณีที่มีประวัติตรวจรักษาหรือสัมผัสผู้มีความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย

จากสถานการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 1– 27เมษายน 2564 โรงพยาบาลศิริราชได้ทำการตรวจคัดกรองหาเชื้อ โควิด–19 ในผู้ป่วยนอกไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 7,842 ราย และได้รายงานผลให้แก่ผู้รับการตรวจ และรับตัวผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลภายใน 24 ชั่วโมงได้ทุกราย

กรณีผู้มาขอรับบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และไม่เข้าข่ายความจำเป็นเร่งด่วนตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมควบคุมโรค เจ้าหน้าที่พยาบาลจะให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว วิธีการกักตัว การสังเกตอาการเจ็บป่วย และแนะนำให้ไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาของผู้ป่วย รวมทั้งการโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 เพื่อขอรับคำปรึกษาเพิ่มเติม

โรงพยาบาลศิริราชขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ผู้ป่วยชายอายุ 45 ปีที่เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19รายดังกล่าวและได้นำเหตุการณ์นี้มาปรับระบบการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ของโรงพยาบาลเพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้มากขึ้นและสามารถป้องกันความสูญเสียในอนาคต .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง