กรุงเทพฯ27 เม.ย. – สุดทน! แม่ค้าร้านขายของชำภายในเคหะซอยสุขสวัสดิ์ 30 เขตราษฎร์บูรณะ นำผ้าอนามัยใช้แล้วแขวนราวตากผ้าวางจองที่จอดรถส่วนกลาง คู่กรณียกออกโมโหทุ่มราวตากผ้าใส่รถเสียหาย ชาวบ้านเอือมระอาพฤติกรรม
เมื่อเย็นวานนี้ (26 เม.ย.) พนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งจากประชาชนว่ามีผู้ก่อเหตุนำราวตากผ้ามาทุ่มใส่รถยนต์ส่วนบุคคล ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 30 จึงรีบลงพื้นที่ไปตรวจสอบทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุ ภายในลานจอดรถเคหะสุขสวัสดิ์ 30 ซอยสุขสวัสดิ์ 30 แขวงบางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ ได้พบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในเคหะ ยืนมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก พร้อมส่งเสียงสาปแช่งผู้ก่อเหตุอย่างดุเดือดและชุลมุน เจ้าหน้าที่จึงรีบระงับเหตุ พร้อมรับฟังและทำความเข้าใจกับประชาชน จนเหตุการณ์เริ่มสงบ โดยใช้เวลาเจรจา 10 นาที จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบภาพรถคนหนึ่งกำลังเข้าจอด จากนั้นมีหญิงคนหนึ่งทุ่มราวตากผ้าใส่อย่างชัดเจน
จากนั้นตำรวจจึงเดินเข้าไปพูดคุยกับผู้ก่อเหตุเป็นหญิง 1 คน ทราบชื่อคือ นางสาวแอน (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ซึ่งได้เข้าไปในห้องพักที่เปิดเป็นร้านขายของชำอยู่บริเวณชั้นล่างของเคหะ ตึก Q ใช้เวลาพูดคุยนานถึง 20 นาที จึงเดินออกมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมบันทึกภาพเหตุการณ์ เพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี
ส่วนที่เกิดเหตุพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ฮอนด้าแจ๊ส สีขาว ทะเบียน ญส4552 กรุงเทพมหานคร จอดบริเวณลานจอดรถด้านหลังอาคารเคหะ ตึก R บริเวณกระโปรงหน้ามีราวตากผ้าที่แขวนผ้าอนามัยที่มีคราบสีแดง 2 ชิ้น และมีป้ายฟิวเจอร์บอร์ดสีเหลืองเขียนด้วยลายมือว่า “หิวก็กินได้นะ แก่แล้วไม่มีใครเลี้ยง” นอกจากนี้ที่กระโปรงหน้ารถยังพบไม้ถูพื้นพร้อมผ้า และสายยาง 1 ม้วนใหญ่ จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด โดยกระโปรงหน้ารถพบรอยถลอกหลายแห่ง
จากการสอบถามเจ้าของรถทราบชื่อนางอรพิณ อายุ 38 ปี บอกว่า ตนเองพักอยู่ตึก R แล้ววนหาที่จอดรถมาด้านหลังตึก และว่างพอดี แต่มีราวตากผ้ามากั้นไว้ จึงลงไปลากออก พอกำลังจะเลื่อนเข้าจอด ปรากฏว่าหญิงคนดังกล่าวยกราวทุ่มใส่รถตามคลิปกล้องวงจรปิด จึงรีบลงจากรถไปพูดคุย แต่หญิงคนดังกล่าวได้เดินเข้าบ้าน จึงไปแจ้งความที่ สน.ราษฎร์บูรณะ
เจ้าของรถบอกว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะครั้งก่อนถูกปาอุจจาระใส่รถ ขณะที่ชาวบ้านแถวนี้เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มานานแล้ว แต่ไม่มีใครจัดการได้ เพราะจะอ้างว่ารู้จักกับตำรวจ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน เนื่องจากเป็นที่ส่วนกลาง สามารถจอดรถได้ แต่กลับมีคนเห็นแก่ตัวเอาราวตากผ้ามากันไม่ให้คนอื่นจอด เมื่อครั้งก่อนที่เกิดเหตุปาอุจจาระใส่รถ ก็ได้ไปแจ้งความ จากนั้นตำรวจได้เชิญตัว แต่อีกฝ่ายอ้างว่าตำรวจไม่มีสิทธิมาเชิญตัวยามวิกาล ทำให้คดีไม่คืบหน้า
ด้านพนักงานสอบสวนจะได้สอบถามพยานแวดล้อม พร้อมเก็บหลักฐานทั้งหมดไปพิสูจน์ โดยเฉพาะสิ่งที่อยู่ในผ้าอนามัยว่าเป็นสารชนิดใด พร้อมเชิญตัวผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายไปเจรจาตกลงค่าเสียหาย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นผู้ก่อเหตุอาจถูกดำเนินคดีฐานทำให้เสียทรัพย์.-สำนักข่าวไทย
