เฉลี่ยตัวเลขติดเชื้อแล้วถือว่ายังคุมได้

กรุงเทพฯ 23 เม.ย.-“อนุทิน” ระบุประชาชนให้ความร่วมมือมาตรการ ศบค.มากขึ้น ห้วง 2 สัปดาห์สถานการณ์ดีขึ้น แจงเฉลี่ยตัวเลขแม้ทะลุ 2,000 คน แต่ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์คุมได้ ยันบุคลากรสาธารณสุขยังสู้


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการรับมือกับสถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อโควิด -19 ซึ่งวันนี้(23 เม.ย.) ทะลุ 2 พันคนแล้วว่าขณะนี้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามในทุกๆ ที่ เมื่อวาน (22 เม.ย.) ไปดูที่หัวหินมา ซึ่งมีความพร้อม ส่วนตัวเลขผผู้ป่วยที่เพิ่มมากในช่วงนี้ยังอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ เช่น กรุงเทพฯ เป็นการไล่เก็บข้อมูล ยืนยันว่าไม่ได้ปิดข้อมูล แต่กรุงเทพฯ เป็นเมืองใหญ่ สำนักการแพทย์อาจมีปัญหาส่งข้อมูลมาให้กระทรวงสาธารณสุข

ส่วนกรณีตั้งเป้าจะควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อให้ได้ภายในเดือนเมษายน แต่จำนวนยังสูงขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ต้องพยามทำให้ดีที่สุด ขณะนี้การเดินทางลดลง แต่ยังไม่เท่าปีที่แล้ว ผับ บาร์ สถานบันเทิง การรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก ๆ ขณะนี้ลดน้อยลงตามมาตรการ ศบค.


“ตัวเลขติดเชื้อขณะนี้ เข้าใจว่าไม่ใช่เพิ่งติดเมื่อวาน แต่อาจติดมาตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ ซึ่งหวังว่าบางส่วนที่ไม่แสดงอาการรุนแรงหรือบางส่วนที่มีอาการ แต่เมื่อได้รับยาภายในวงรอบ 2 สัปดาห์ก็น่าจะหาย และจากนี้หากไม่มีกลุ่มก้อนใหม่เพิ่มขึ้นมาก็น่าจะลดลงตามหลักระบาดวิทยา” นายอนุทิน กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องวัคซีนยืนยันว่าของแอสตราเซเนกาจะส่งตามกำหนดที่เซ็นสัญญาไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ซึ่งเป็นที่ทราบว่าจะส่งในต้นเดือนมิถุนายนนี้ จะทำให้เร็วกว่านี้คงไม่ได้ เพราะต้องมีขั้นตอน มีความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค รวมถึงมีขั้นตอนตรวจเช็คว่าปนเปื้อนหรือไม่ ทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้จะนำออกมาใช้ก่อนไม่ได้

ส่วนกรณีคุณยายป่วยโควิด-19 แต่ไม่มีเตียงรองรับ จนที่สุดต้องเสียชีวิตในบ้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ได้ทราบแล้ว และให้กรมการแพทย์สอบถามไปยัง กทม. ว่าจะต้องปรับปรุงระบบการแยกแยะคนไข้ที่มีความฉุกเฉินอย่างไร เพราะต้องแยกประเภทให้ได้ ยืนยันว่าทุกฝ่ายทำงานเต็มที่


เมื่อถามย้ำถึงกรณีคนติดเชื้อและต้องพักรอที่บ้านจนทำให้ติดเชื้อทั้งบ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คนที่เริ่มมีอาการต้องรู้ตัวเอง เช่น เมื่อไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์มามีความเสี่ยงเกิดขึ้นแล้ว ถ้าอยู่บ้านคนเดียวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าบ้านหลายคนโดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุอยู่ ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นด้วยการไม่คลุกคลีหรือสัมผัส

“ได้บอกไปทางกรมการแพทย์และกรมควบคุมโรค ว่าหากต้องการให้ ศบค.หรือรัฐบาลสนับสนุนสิ่งใด ผมพร้อมเสนอให้ และสิ่งใดที่อยู่ในอำนาจก็อนุมัติในทันที เช่น ขอยามาก็ได้อนุมัติไป หรือเมื่อวานได้คุยกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ว่าขณะนี้มีคนรออยู่บ้านจำนวนมาก จึงมีข้อสรุปว่า สปสช.จะดำเนินการเรื่องชุดตรวจตัวเองที่บ้าน เช่นเครื่องวัดไข้ เครื่องวัดค่าออกซิเจนและสั่งการให้แต่ละโรงพยาบาลคอยเฝ้าสังเกตอาการคนไข้ที่ติดเชื้อและอยู่บ้านรอเตียง เบื้องต้นให้ได้รับอุปกรณ์เหล่านี้ไปก่อน” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้สามารถใช้คำว่าควบคุมสถานการณ์ได้อยู่หรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คำว่าควบคุมได้ คือไม่ให้แพร่ระบาดไปเกินระดับที่ตั้งเกณฑ์เอาไว้ ซึ่งในขณะนี้ถือว่านิ่งมาอาทิตย์กว่า ๆ ตัวเลขพันเจ็ดพันสี่ขึ้นมาสองพันอะไรแบบนี้ ซึ่งหากนำมาเฉลี่ยยังอยู่ใกล้เคียงกัน ยังอยู่ในจุดที่คาดหวังไว้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลจากการใช้มาตรการเพราะหากไม่ควบคุมอาจทำให้มากกว่านี้ จึงหวังว่าจากนี้ไปสองสัปดาห์ทุกอย่างจะค่อย ๆ ลงมา

ส่วนคนที่ป่วยและหายแล้วยังมีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องถามแพทย์ ซึ่งมีคณะกรรมการบริหารการฉีดวัคซีนที่จะดูแลเรื่องความปลอดภัยในการฉีด ประเด็นเรื่องป่วยและหายแล้วจะต้องมาฉีดวัคซีนหรือไม่ ยังไม่เคยถามแพทย์

“ตอนนี้ผมเห็นว่าความร่วมมือของประชาชนเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ทุกคนก็เสียใจ และพยายามจะแก้ไข เช่นวันนี้ที่กระทรวงสาธารณสุข ศูนย์ปฏิบัติการก็แทบระเบิด เวลาเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้น แม้ทุกคนจะบอกว่าทำดีที่สุด แต่ผมก็ต้องบอกไปว่ายังไม่พอ เพราะหากทำเต็มที่ ผลต้องออกมาดีกว่านี้ แต่จะไปกดดันเขาเพื่ออะไร จะให้ผมย้ายอธิบดีกรมการแพทย์หรือ มันไม่ได้ ผมเชื่อว่าตอนนี้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนทำงานเต็มที่ เช่นเมื่อวานได้หัวหิน ได้เจอทั้งหมอและพยาบาล บุคลากรสาธารณสุขหลาย 10 คน ไม่มีใครสักคนที่เดินมาบอกว่าไม่ไหวแล้ว ทุกคนยังสู้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

เมื่อถามว่าขณะนี้กังวลอะไรมากที่สุด นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่กังวลคือความร่วมมือของประชาชน ถ้าให้ความร่วมมือเต็มที่ อยู่บ้านมากที่สุดเท่าที่จะทำได้หรือทำงานที่บ้าน หลีกเลี่ยงการพบปะ การรวมกลุ่มกลุ่มกันจำนวนมาก สิ่งนี้ช่วยได้มาก อยากย้ำว่าขอให้งดการรวมกลุ่มทุกประเภท

“กรณีไม่ไปสังสรรค์ แต่ว่าไปปฎิบัติธรรมนั่นก็คือการรวมกลุ่มกันอยู่ดี หรือกรณีเจ้าของโรงงานไปดูงานมอเตอร์โชว์มา ไม่รู้ไปติดมาจากไหน เอามาติดทั้งโรงงานแบบนี้ คือสิ่งที่ผมกังวลมากที่สุด เพราะบางทีคนไม่เข้าใจว่าไปแค่นี้ไม่น่าติดหรอก แต่ถ้าไปในที่กลุ่มคนเยอะ ๆ ความเสี่ยงมันก็เกิดขึ้น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าตรวจสอบและจะเปิดเผยกรณีไฮโซเดินทางข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านแล้วนำเชื้อกลับมาแพร่กระจายหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านเมือง สาธารณสุขมีหน้าที่รักษา จะให้สาธารณสุขไปถือปืนยืนเฝ้าคนไม่ให้เข้าผับเข้าบาร์ไม่ได้

ส่วนกรณีก่อนหน้านี้คณะแพทย์มีข้อเสนอว่าควรบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง แต่รัฐบาลบอกให้พบกันครึ่งทาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว ทุกคนมีเงื่อนไข มีความกังวลทางแพทย์ ต้องบอกว่าดีที่สุดคือการล็อกทุกอย่าง ไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ในมุมเศรษฐกิจถ้าทำแบบนี้เศรษฐกิจพัง จึงต้องหาจุดที่ลงตัวซึ่งกันและกัน

“เราพยายามประคับประคองทุกมิติของกลไกการบริหารประเทศให้เดินหน้าไปได้ ถ้าสาธารณสุขบอกว่าดีที่สุดคือการล็อกดาวน์ ทำได้หรือไม่ สาธารณสุขอยากจะล็อกดาวน์จะตาย แต่พอเสนอมา พอมีการชี้แจงของฝั่งเศรษฐกิจ เราก็ต้องฟัง ถ้าไม่ฟังแล้วบอกไม่สนแล้วครับ มันจะไม่เป็นรัฐบาล ผมพูดแล้วนะ ผมเตือนอย่างนี้แล้วนะ ถ้าไม่เป็นไปตามนี้ ผมไม่รับผิดชอบนะ ผมพูดได้ไหม แล้วใครจะรับผิดชอบ นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ ถ้านายกรัฐมนตรีอยู่ไม่ได้ รัฐบาลทั้งรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ วันนี้จึงไม่ใช่วันที่จะไปชี้ว่าใครผิดใครถูกมันเป็นวันที่ต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่และมีความอดทนอย่างสูง” นายอนุทิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง