“อิทธิพล” เผยสงกรานต์นี้ สนุกได้!

ทำเนียบรัฐบาล 9 มี.ค.- “อิทธิพล” เผยสงกรานต์นี้ สนุกได้! เน้นแก่นแท้ประเพณี ส่งสัญญาณเอกชน เตรียมพร้อมรับมือกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคัก จัดโซนนิ่งเล่นน้ำ จัดคอนเสิร์ต คาดสัปดาห์หน้ารู้รายละเอียดเงื่อนไขจัดงานสงกรานต์


นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า วันนี้ (9 มี.ค.) มีการประชุมกันระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อหามาตรการแนวทางต่างๆเพื่อผ่อนคลายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งทั้งสองกระทรวงมีแนวโน้มตรงกันที่จะมีมาตราการที่ผ่อนคลายมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมวัฒนธรรมประเพณี โดยในปีนี้กระทรวงวัฒนธรรมจะออกแนวปฏิบัติ เป็นข้อแนะนำแบบละเอียดที่ต่างจากปีที่แล้ว สงกรานต์ปีนี้จะเป็นสงกรานต์ที่เน้นแก่นแท้ของประเพณี อาทิ ทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระพุทธรูป รดน้ำดำหัวบุพการี

นายอิทธิพล กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้หารือเรื่องการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้จะร่วมมือกับภาคีภาคเอกชนในการจัดกิจกรรม และจะเร่งหารือกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหามาตรการผ่อนคลาย ลดจำนวนวันของการกักตัวลง และมีมาตรการกระจายวัคซีนที่ทั้งสองกระทรวงเห็นพ้องต้องกันว่า จะขอการสนับสนุนวัคซีนให้กับจังหวัดพื้นที่ท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจากเดิมได้รับการจัดสรรมาแล้วในล็อตแรก และรอบต่อไปก็จะเพิ่มจำนวน เพื่อกำหนดเป็นโซนนิ่งให้จัดกิจกรรมได้อย่างปลอดภัย เช่น จังหวัดภูเก็ต ,อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ,เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่จะกำหนดโซนพื้นที่ให้ชัดว่า จุดไหนจัดงานได้ ส่วนข้อสรุปต้องรวบรวมส่งต่อไปยังเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อนำไปหารือต่อให้ครบทุกหน่วยงาน ก่อนขอความเห็นจากกรมควบคุมโรค ซึ่งจะได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการต่อไป


นายอิทธิพล กล่าวว่า แนวโน้มของการจัดกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์ ปาร์ตี้โฟม จัดการแสดงคอนเสิร์ตนั้น จะขอความร่วมมือให้ใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น แว่นกันน้ำ หน้ากาก เสื้อผ้าที่ไม่ให้เกิดการสัมผัสเสียง เช่น เสื้อกันฝน อาจจะผ่อนคลายให้สามารถจัดได้ แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้พิจารณาเป็นรายกิจกรรม ซึ่งดูความเสี่ยงของกิจกรรมเป็นหลัก เบื้องต้น อาจแบ่งเป็นโซนเพื่อผ่อนปรนที่จะให้สาดน้ำได้เป็นบางพื้นที่ ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ และตระหนักในการป้องกันเพื่อให้สงกรานต์นี้ เกิดความสนุกสนานอย่างปลอดภัย

นายอิทธิพล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนถึงการอนุญาตให้สาดน้ำบนรถกะบะ แต่แนวโน้มสูงที่อาจจะแบ่งโซนพื้นที่และต้องมีเจ้าภาพรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนโรค หลังจากนี้ขอให้รอความเห็นจาก ศบค.ชุดใหญ่ ที่คาดว่าจะกำหนดวางเกณฑ์ที่ชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า แต่ขอย้ำว่า สงกรานต์ปีนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ให้ภาคเอกชนภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องในเตรียมความพร้อมในการรับมือกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน