กรุงเทพฯ 5 มี.ค. – นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชี้เวนคืนที่วัดเอี่ยมวรนุช สร้างสถานีรถไฟฟ้าบางขุนพรหม ต้องยึดตาม EIA ที่ระบุชัดเจนไม่มีการเวนคืน ด้าน รฟม. ยืนยันไม่เวนคืนที่วัดเอี่ยมวรนุช พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับวัด
จากกรณีเพจเฟซบุ๊กวัดเอี่ยมวรนุช เผยแพร่รูปและข้อความระบุว่า “ด่วน! วัดเอี่ยมฯ โดนเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เมื่อความเจริญเข้ามา สิ่งที่จะต้องเสียไปคือ…วัดวาอาราม จะต้องโดนเวนคืนเพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ปัจจุบันวัดเอี่ยมก็เล็กมาก เนื้อที่แค่ 2 ไร่ กว่าๆ เอง แทบจะไม่มีเนื้อที่เหลือสำหรับจัดกิจกรรมใดๆ
ตอนนี้ก็โดนเฉือนไปอีก ตั้งแต่กำแพงวัด ซุ้มประตู ศาลาทั้ง 2 หลังด้านหน้าวัด เจดีย์ขาวอายุเกือบร้อยปี และวิหารหลวงปู่ทวด และที่ผลประโยชน์ของวัดร้านครัวเพลินเพลง กับร้านก๋วยเตี๋ยวข้างวัดฯ ลานหน้าวัดที่เวนคืนจากกำแพงวัดมาอีก 6 เมตร…วัดยิ่งเล็กลงไปอีกมากๆ…
ผลการประชุมวันนี้จาก จนท.ของ รฟม. รังวัดพื้นที่ตอกหมุดเรียบร้อย…น้ำตาจะไหล…ไม่คิดว่าเรามาถึงจุดๆ นี้ได้อย่างไร….สงสารหลวงพ่อเจ้าอาวาส ท่านก็บอกว่าช็อกมากไม่คิดว่าจะโดยเวนคืนเยอะขนาดนี้…เพราะตอนแรกที่คณะกรรมการฯ รฟม.มาคุยกันมันไม่ใช่แบบนี้”
ประเด็นนี้เกิดขึ้นหลัง ครม. อนุมัติร่าง พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน เพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ส่วนต่อขยาย ระยะทาง 23.6 กม. ขณะนี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ได้ทำการสำรวจเวนคืนที่ดินไปแล้วกว่า 100 ไร่ โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในเดือน ส.ค.-ก.ย. 2564 และคาดว่าแล้วเสร็จภายในปี 2570
นายสนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีที่วัดเอี่ยมวรนุชจะถูกเวนคืนที่ดินว่า ตนได้ตรวจสอบในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ของโครงการดังกล่าวแล้ว พบว่ารายงานฉบับนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้วตั้งแต่ 17 กุมภาพันธ์ 2554 และล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 ก็ผ่านการพิจารณาในขั้นตอนสุดท้ายของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
นายสนธิ ระบุว่า ในรายงาน EIA ยังระบุชัดเจนถึงแผนการก่อสร้างที่พบว่าไม่มีการเวนคืนพื้นที่ภายในวัดของวัดเอี่ยมวรนุชแต่อย่างใด เพียงแต่บอกว่าทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าจะอยู่บริเวณด้านหน้าวัดเอี่ยมวรนุชเท่านั้น ดังนั้น ตามกระแสข่าวว่า รฟม. จะไปเวนคืนกุฏิหลวงปู่ทวด หรือโบราณสถาณต่างๆ ภายในวัดนั้น ตามข้อเท็จจริงไม่มีปรากฏอยู่ใน EIA
นายสนธิ กล่าวว่า เป็นไปได้ที่การก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าอาจมีการกระทบกับกำแพงวัดบ้าง แต่สุดท้ายทุกอย่างจะต้องถูกซ่อมแซมให้เหมือนเดิม แต่ตนมั่นใจว่าจะไม่กระทบกับเจดีย์หรือกุฏิ เพราะใน EIA ไม่ได้บอกไว้ ซึ่งรายงาน EIA ถือเป็นเงื่อนไขตามกฎหมายที่อยู่ในใบอนุญาต ที่ผ่านมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติไปแล้ว และเป็นไปตามพระราชบัญญัติสิ่งแวดล้อมแห่งชาติปีปี 2535 และปี 2556 เพราะฉะนั้น รฟม. ต้องปฏิบัติตาม
วัดเอี่ยมวรนุชมีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ พบว่าพื้นที่ที่มีการสำรวจแนวเขตเพื่อก่อสร้างแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางขุนพรหม ซึ่งทาง รฟม. มีการปักแนวเขตไว้ มีพื้นที่บางส่วนอยู่ในบริเวณวัด ซึ่งเป็นที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้างสำคัญของวัด ทั้งวิหารหลวงปู่ทวด พุทธเจดีย์ปรินิพพาน ศาลาเล็ก ศาลาใหญ่ และประตูทางเข้า-ออก
ล่าสุดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ออกมาชี้แจงว่า โครงการก่อสร้างสถานีบางขุนพรหม เป็นสถานีใต้ดินของโครงการรถไฟฟ้าสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ในขั้นตอนการสำรวจดังกล่าวเป็นเพียงการดำเนินการสำรวจแนวเขตทาง (Right of way) ในเบื้องต้นเท่านั้น โดยในการก่อสร้างสถานีดังกล่าวจะมีตำแหน่งทางขึ้น-ลง 4 ตำแหน่ง
(1) ตำแหน่งทางขึ้น-ลง หมายเลข 1 ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดเอี่ยมวรนุช ใกล้สี่แยกวิสุทธิกษัตริย์
(2) ตำแหน่งทางขึ้น-ลง หมายเลข 2 ตั้งอยู่บริเวณปั๊ม ปตท. ตรงข้ามวัดสามพระยา
(3) ตำแหน่งทางขึ้น-ลง หมายเลข 3 ตั้งอยู่บริเวณโรงพิมพ์ศรีหงส์
(4) ตำแหน่งทางขึ้น-ลง หมายเลข 4 ตั้งอยู่บริเวณธนาคารแห่งประเทศไทย ถนนวิสุทธิกษัตริย์
รฟม. ยืนยันว่าจะไม่มีการเวนคืนส่วนที่เป็นวิหารและเจดีย์เก่าของวัดเอี่ยมวรนุชตามที่ปรากฏในข่าว ทาง รฟม. ได้ชี้แจงทำความเข้าใจเบื้องต้นกับผู้เกี่ยวข้องของวัดเอี่ยมวรนุชแล้ว และในต้นสัปดาห์หน้า รฟม. พร้อมด้วยบริษัทที่ปรึกษาโครงการฯ จะเข้าชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดกับทางวัดต่อไป
ความเป็นมาของวัดเอี่ยมวรนุช ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2327 เดิมชื่อวัดท้องคุ้ง ต่อมาปลัดนุชดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ ชาวบ้านจึงเรียกว่า วัดปลัดนุช ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยายเอี่ยมได้สร้างพระอุโบสถ พระองค์จึงมีดำรัสว่าควรมีชื่อผู้สร้างร่วมอยู่ในวัดนี้ด้วย วัดนี้จึงมีชื่อว่า “วัดเอี่ยมวรนุช” นับแต่บัดนั้น
ภายในวัดมีพระอุโบสถประดิษฐานหลวงพ่อพระบางประสิทธิโชค หรือพระอีบาง วิหารเจ้าแม่กวนอิมเป็นที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย อีกมุมหนึ่งของวัดมีพุทธเจดีย์ปรินิพพาน หรือเจดีย์ถวายพระเพลิงพระศาสดา ลักษณะเป็นมณฑปเล็กๆ สีขาว ภายในประดิษฐานพระเจ้าเข้านิพพาน นอกจากนี้ยังมีวิหารหลวงปู่ทวด ซึ่งภายในประดิษฐานหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และยังมียังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่โดยรอบวัด
ขณะนี้เรื่องราวปัญหาที่เกิดขึ้นได้คลี่คลายได้ไปในทางที่ดี โดยมีท่านรองปลัดคมนาคมได้เข้าพบเจ้าอาวาส พระครูศรีสุตาภรณ์ พูดคุยและกราบนมัสการองค์หลวงปู่ทวด ท่านรองปลัดคมนาคมได้แจ้งกับทางวัดเอี่ยมวรนุชว่าจะไม่รื้อถอน หรือจะให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบล็อกใส่อัฐิบรรพบุรุษ วิหารหลวงปู่ทวด และวิหารรอยพระบาทแท่นสีขาว ให้มีผลกระทบน้อยที่สุด บริเวณด้านอื่นอีก และในด้านส่วนตัวของพระมหาสร้อยเองท่านได้กล่าวว่า ถ้าเป็นไปในตามที่รองปลัดคมนาคมท่านกล่าวเอาไว้ ทางวัดจะดีใจ ประชาชนก็จะได้มีที่เข้ามากราบสักการะ เข้ามาทำบุญไหว้พระ ณ วัดแห่งนี้ วันนี้ก็มีประชาชนเข้ามากราบสักการะองค์หลวงปู่ทวด เข้ามาถวายสังฆทานผ้าไตรให้กับเจ้าอาวาส และหลั่งไหลเข้ามาให้กำลังใจ เป็นจำนวนมาก จึงขอขอบพระคุณสื่อมวลชน ประชาชนทั่วสารทิศ ที่เป็นกำลังใจให้กับวัดเอี่ยมวรนุชไว้ ณ ที่นี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย