นักวิชาการเตือนไทยรับมือผลกระแทกสหรัฐขึ้นภาษี

กรุงเทพฯ 3 ก.พ. – นักเศรษฐศาสตร์ เตือนภาครัฐ-เอกชน รับมือผลกระแทกสหรัฐขึ้นภาษี โดยไทยอาจเป็นเฟสต่อไปที่สหรัฐจะขึ้นภาษี แต่ผลพวงในเฟสแรก กระทบส่งออก และสินค้าจีนอาจทะลักเข้าไทยเพิ่มขึ้น


หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก และ10% สำหรับสินค้าจากจีน มีผล 4 ก.พ.68 นักวิเคราะห์ต่างมองว่าจะกระทบการค้าโลก การส่งออก ต่อห่วงโซ่การผลิตของอีกหลายประเทศ และส่งผลหุ้นเอเชียและหุ้นไทยในวันนี้ดิ่งลง ดร.เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าา ผลกระทบจากสงครามการค้า ในครั้งนี้รุนแรงกว่าในสมัยแรกของทรัมป์ เพราะระบบเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นดี และสหรัฐฯ ที่เป็นฟันเฟือนเศรษฐกิจขนาดใหญ่ไปขัดกับระบบของโลก ก็ยิ่งเกิดผลกระทบรุนแรงไปทั่วโลก รวมทั้ง ทรัมป์ ยังนำเรื่องภูมิรัฐศาสตร์มาผูกพันกับนโยบายการค้า ก็ยิ่งทำให้หากจุดสิ้นสุดได้ยาก หากโฟกัสเฉพาะประเทศไทย อาจไม่ใช่เฟสแรกที่ทรัมป์จะจัดการ แต่อาจเป็นรอบต่อไป เพราะไทยอยู่ในกลุ่มที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูง

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการขึ้นภาษี อันดับแรก คือ สินค้าที่ส่งไปยังสหรัฐฯ จะลดลงและแข่งขันได้ยาก รวมทั้งยังมีมาตรการกดดันให้เงินลงทุนไหลกลับไปยังสหรัฐฯ หรือประเทศที่ถูกสหรัฐฯโจมตีน้อยกว่าไทย ส่งผลให้เงินลงทุนเข้ามาในไทยลดลง บางบริษัทอาจย้านฐานการผลิตกลับไปยังสหรัฐฯ หรือไปยังประเทศอื่น ซึ่งมองว่าน่าจะเป็นเวียดนามหรือบางประเทศในละตินอเมริกาที่อาจจะถูกสหรัฐฯ โจมตีน้อยกว่าไทย


“การที่ไทยโดนสหรัฐขึ้นภาษีในเฟส ที่ 2 หรือ 3 ก็จะได้รับแรงกระแทกจากจากประเทศที่ถูกขึ้นภาษีสูงในเฟสแรก เช่น มีสินค้าจากจีนทะลักเข้าไทยเพิ่มขึ้น นักท่องเที่ยวจากจีนน้อยลง เป็นต้น ทำให้เป็นแรงเสริมซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยให้ย่ำแย่ลง ภาคเอกชน ต้องเตรียมรับมือ โดยการหาพาร์ทเนอร์ในสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งที่สามารถจัดการในเรื่องการนำเข้าหรือส่งออกให้กับเราได้ การหาตลาดเสริม หรือการเปลี่ยนเข้าไปอยู่ในซัพพลายเชนของผู้ประกอบการในสหรัฐฯ ให้ได้มากที่สุด หรืออยู่ในซัพพลายเชนประเทศที่ไม่ถูกสหรัฐฯจัดการ เช่น ประเทศในยุโรป หรือพันธมิตรสหรัฐฯ ก็เป็นอีกแนวทางที่ลดผลกระทบได้ในบางส่วน” ดร.เกียรติอนันต์ กล่าว

ดร.เกียรติอนันต์ กล่าวว่า การบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้น ในส่วนของรัฐบาลต้องวางตัวให้เป็นกลางให้มากที่สุด ไม่แสดงท่าทีสนิทสนมหรือทำการค้ากับประเทศที่เป็นปฏิปักษ์กับสหรัฐฯ และปรับปรุงการดำเนินงานภายในประเทศให้เป็นสากลมากที่สุด ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน เพื่อป้องกันหรือลดการนำเรื่องเหล่านี้มาเป็นอ้างในการกีดกันการค้าให้เหลือน้อยที่สุด รวมทั้งการหาตลาดใหม่ และมาตรการฉุกเฉินในการกระตุ้นเศรษฐกิจหากสงครามการค้ามีความรุนแรง. -511-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ยกหูคุยนายกฯ มาเลเซีย ร่วมแก้น้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก

นายกฯ ยกหูจากเยอรมนีคุย “นายกฯ มาเลเซีย” เตรียมความพร้อมร่วมมือแก้ปัญหาน้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก ผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตัม คาดเสร็จภายใน ต.ค.นี้

นางสงกรานต์ปี 68 นาม “ทุงสะเทวี” ธัญญาหาร-ประชาชนสุขสมบูรณ์

ฝ่ายโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ประกาศสงกรานต์ ปี 2568 วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี

ขนเหยื่อและแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากเมียวดีกลับจีน รอบ 2

เริ่มแล้วปฏิบัติการขนเหยื่อและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมืองเมียวดี กลับจีน รอบ 2 จำนวน 4 วัน 19 เที่ยวบิน รวมกว่า 1,400 คน

ฮั้วเลือก สว.

DSI รับเรื่อง “ฮั้วเลือก สว.” เป็นคดีพิเศษ

6 มี.ค. – คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับการฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 (1) คือเข้าข่ายการฟอกเงิน ด้วยมติเห็นชอบ 11 เสียง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ร่วมประชุมพิจารณาคดีเรื่องสืบสวนที่ 151/2567 กรณีการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่มีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปด้วยสุจริตหรือเที่ยงธรรม เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งเป็นการนัดประชุมครั้งที่ 2 ภายหลังส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษ เป็นพิจารณาให้ได้ข้อยุติก่อนเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษในวันนี้ โดยในช่วงการเปิดประชุม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ ได้รายงานว่า วันนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม 19 คน ลาประชุม 3 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน คือ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสอบสวนคดีอาญา และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน […]