วัคซีนโควิด-19 เข็มเดียวลดความเสี่ยงเข้า รพ.80%

อังกฤษ 2 มี.ค.- ผลวิเคราะห์การใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาและไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ในสหราชอาณาจักร พบว่าเพียงโดสเดียว สามารถลดความเสี่ยงการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลจากการป่วยโควิดได้ถึง 80%


ผลการวิเคราะห์ของสำนักงานสาธารณสุขอังกฤษแสดงให้เห็นว่า วัคซีนต้านโควิด-19 เพียงโดสเดียวทั้งของอ็อกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซเนกา และของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค มีประสิทธิผลสามารถลดโอกาสในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลได้สูงกว่า 80% โดยพบว่า ประสิทธิผลในการป้องกันโรคเกิดขึ้นในช่วง 3-4 สัปดาห์หลังรับวัคซีนข้อมูลนี้ อ้างอิงประชาชนที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป ซึ่งรับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว และข้อมูลยังพบด้วยว่า การฉีดวัคซีนยังลดความเสี่ยงในผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ไม่ให้แสดงอาการมากขึ้น ประมาณ 60% หลังฉีดวัคซีนโดสแรก 3 สัปดาห์

นักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลอังกฤษ ต่างชื่นชมผลดังกล่าว แต่ก็ย้ำว่า วัคซีนโดสที่ 2 ยังมีความจำเป็นเพื่อการป้องกันที่ได้ผลดีที่สุด นอกจากนี้ ผลของวัคซีนครั้งนี้ อาจช่วยอธิบายได้ว่าทำไมผู้ป่วยโควิดที่เข้ารับการรักษาตัวในห้องผู้ป่วยหนัก หรือไอซียู ในกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป ในสหราชอาณาจักร จึงมีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัดเหลือตัวเลขเพียงตัวเดียวในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้มีประชาชนมากกว่า 20 ล้านคนในสหราชอาณาจักรรับวัคซีนโดสแรกแล้ว โดยกว่า 1 ใน 3 เป็นผู้ใหญ่


ขณะเดียวกัน หน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษ เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์บราซิล หรือสายพันธุ์ที่มาจากเมืองมาเนาส์ ในสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรกอย่างน้อย 6 ราย โดยพบในอังกฤษ 3 ราย และสกอตแลนด์อีก 3 ราย สำหรับเชื้อโควิดกลายพันธุ์ที่พบในเมืองมาเนาส์ มีลักษณะการกลายพันธุ์ร่วมกับเชื้อกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ และมีความเป็นไปได้ที่เชื้อชนิดนี้จะตอบสนองต่อวัคซีนปัจจุบันค่อนข้างน้อย

ผู้อำนวยการกลยุทธ์ตอบสนองต่อโควิด-19 ของอังกฤษระบุว่า ยีนของเชื้อที่พบในอังกฤษมีความสามารถในการพัฒนา ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ได้หลายสายพันธุ์มากกว่าประเทศอื่นๆ โดยเมื่อปีที่แล้วอังกฤษตรวจพบการระบาดของเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ที่มีที่มาใกล้กับกรุงลอนดอน จนทำให้ยอดติดเชื้อในประเทศพุ่งสูงขึ้น แต่ยังย้ำว่า ไม่ว่าโควิด-19 จะกลายพันธุ์ไปเช่นไร แต่การแพร่เชื้อยังคงเหมือนเดิม ดังนั้นมาตรการที่จะหยุดการแพร่ระบาดก็ยังคงไม่เปลี่ยน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งความผู้ว่าสตง.

2 พิธีกรดังเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.ถล่ม

สองพิธีกรชื่อดัง เข้าแจ้งความกล่าวโทษ ผู้ว่าฯ สตง. และอดีตผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ มองอาจไม่ชอบมาพากล หวั่นเวลาผ่านไปเอาผิดใครไม่ได้

ก้อนปูนตกใส่รถ

กทพ. แจงก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง มีคนโยนลงมาจากสะพานลอย

กทพ. ชี้แจงกรณี ก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง ไม่ได้เกิดจากการกระเทาะของโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี แต่มีผู้โยนลงมาจากสะพานลอย จ่อประสานตำรวจตามตัวดำเนินคดี

ปล่อยกู้ดอกโหด

บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด 1,825% ต่อปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้เฉพาะผู้หญิง คิดดอกเบี้ยมหาโหดร้อยละ 1,825 ต่อปี ไม่จ่ายโดนข่มขู่ประจานไม่เลือกหน้า

ข่าวแนะนำ

โรคแอนแทรกซ์

สธ.เฝ้าระวังโรคแอนแทรกซ์ ย้ำประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจ

หลังมีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อแอนแทรกซ์ รวมถึงยังต้องเฝ้าระวังตรวจคัดกรองหลายร้อยคน การระบาดในพื้นที่ภาคอีสานรอบนี้ ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า กรมควบคุมโรคเร่งเฝ้าระวังและควบคุมโรคแอนแทรกซ์ ย้ำพี่น้องประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจ

ประณามยิงประชาชน

แม่ทัพภาคที่ 4 ประณามคนร้ายยิงประชาชนเสียชีวิต-สั่งปรับแผนความปลอดภัย

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามเหตุยิงประชาชนใน อ.จะแนะ และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สั่งปรับแผนการปฏิบัติในพื้นที่ล่อแหลม เสี่ยงต่อการก่อเหตุรุนแรง สร้างความปลอดภัยสูงสุดในการดูแลประชาชน พร้อมประณามการกระทำโหดเหี้ยม

แอนแทรกซ์

สธ.เผยติดเชื้อแอนแทรกซ์โอกาสตายสูงถึง 80%

สธ. เผยแอนแทรกซ์ เป็นโรคติดต่อร้ายแรง โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80% ส่วน จ.เลย ชาวบ้านพบวัวตายตัว สำนักงานปศุสัตว์ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น คาดกินเชือกไนล่อนมัดฟางเข้าไป ทำให้อุดตันทางเดินอาหาร ไม่น่าเกิดจากโรคระบาดสัตว์ เนื่องจากวัวในฝูงที่เหลืออยู่ ยังมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี