นราธิวาส 3 พ.ค. – แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามเหตุยิงประชาชนใน อ.จะแนะ และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สั่งปรับแผนการปฏิบัติในพื้นที่ล่อแหลม เสี่ยงต่อการก่อเหตุรุนแรง สร้างความปลอดภัยสูงสุดในการดูแลประชาชน พร้อมประณามการกระทำโหดเหี้ยม
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่บ้านชาวบ้าน 3 หลัง ในพื้นที่บ้านปลักปลา ม.5 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 2 คน เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.38 น. คืนวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตคือ นายดำ อายุ 70 ปี, ด.ญ.สสิตา อายุ 9 ขวบ, นายแดง อายุ 58 ปี ส่วนนายเชาว์ อายุ 44 ปี และนายภาคีไนย บาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุกำลังแม่ทัพภาค 4 ตำรวจ ทหาร ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส เข้าตรวจพิสูจน์เก็บหลักฐานที่เกิดเหตุ

นางเฉลิมศรี ที่อยู่ในเหตุการณ์และรอดตาย แต่ต้องเสียลูกสาวคือ ด.ญ.สสิตา เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุคนร้าย 6 คน ขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ 3 คัน เป็นพาหนะ คันแรกมาจอดหน้าบ้าน คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มเข้าไปในบ้าน ขณะที่ตนเองนั่งอยู่ข้างลูกสาว ส่วนนายแดง นายภาคีไนย และนายเชาว์ นั่งดูทีวีอยู่อีกกลุ่ม สิ้นเสียงปืน นายแดงและลูกสาวเสียชีวิต ถูกกระสุนปืนของคนร้าย ส่วนนายภาคีไนย และนายเชาว์ สามี บาดเจ็บ
นอกจากนี้คนร้ายชุดที่ 2 มาจอดรถอยู่หน้าบ้านพัก ซึ่งติดอยู่กับบ้านตนเอง ขณะเกิดเหตุ นายดำ วิ่งออกมาจากบ้านพบคนร้ายนั่งซ้อนท้ายใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงใส่นายดำหลายนัด ถูกซี่โครงซ้าย แขนซ้ายหัก เสียชีวิตคาที่
เวลาไล่เลี่ยกัน คนร้ายชุดที่ 3 จอดรถหน้าบ้านนายจบ ใช้ปืนพกขนาด 9 มม. ยิงถล่มใส่บ้าน 2 นัด โดยที่นายจบ และสมาชิกในครอบครัวไม่อยู่บ้าน หลังก่อเหตุคนร้ายหลบหนีไป มุ่งหน้าตามเส้นทางสู่ อ.สุไหงโก-ลก
พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางไปวัดสิทธิสารประดิษฐ์ หรือวัดโคกยาง พบปะญาติและชาวบ้าน ที่มางานศพนายแดง และไปที่วัดโคกม่วง ช่วยงานศพ ด.ญ.สสิตา และนายดำ พร้อมแสดงความเสียใจ มอบเงินจำนวนหนึ่งช่วยงานศพทั้ง 3 ราย เน้นย้ำ าตรการระวังป้องกันกลุ่มสร้างสถานการณ์ต่อผู้นำศาสนา และบิดเบือนว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ นำไปสู่ก่อเหตุต่อเป้าหมายกลุ่มเสี่ยง
การรักษาความปลอดภัยให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ทำงานเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ หากไม่เพียงพอต้องพิจารณาส่วนอื่นมาดูแล เน้นย้ำมาตรการให้ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. มาร่วมรักษาความปลอดภัย กำชับมาตรการเดินทางของชาวไทยพุทธ-มุสลิม รวมถึงการจัดกิจกรรมที่มีความล่อแหลมต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ อาทิ ช่วงเวลาละหมาดค่ำ 1-2 ทุ่ม ที่ผ่านมาฝ่ายตรงข้ามอาศัยช่วงเวลานี้ก่อเหตุ อย่างที่สถานีตำรวจภูธรโคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส อ.แว้ง และเหตุเมื่อวานนี้ (2 พ.ค. 68) โดยให้กำลังประจำถิ่น ชรบ. ปรับเวลาสลับกันไปปฏิบัติศาสนกิจในจุดล่อแหลม
ทั้งนี้ หลายคดีคืบหน้ามาก ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ขอฝากให้กำลังใจกับประชาชนในพื้นที่ว่ามาตรการต่าง ๆ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการให้มีความปลอดภัยสูงสุดในการดูแลประชาชนไทยพุทธ-มุสลิม ไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่
เช่นเดียวกับ นายกฤษณนันท์ กำไร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ไปร่วมพิธีรดน้ำศพผู้เสียชีวิต ที่วัดโคกมะม่วง และวัดโคกยาง พร้อมมอบเงินเยียวยา
ด้านพันตำรวจโท สัญญา จันทร์ดำ สารวัตรเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ชุด EOD และชุดพิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจสอบและเก็บวัตถุพยานจากสถานที่เกิดเหตุ พื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และจะเร่งดำเนินการขยายผลสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย