กรุงเทพฯ 9 ก.พ. – คนขับแท็กซี่และจักรยานยนต์รับจ้าง ประสานเสียงพร้อมเข้าร่วมโครงการ “เราชนะ” เพราะหวังได้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เนื่องจากพิษโควิดทำผู้โดยสารลดลง รายได้จึงพลอยหดหายไปด้วย แต่มีบางส่วนไม่อยากร่วมโครงการ “เราชนะ” เพราะเห็นว่ายุ่งยากและเป็นอาชีพหาเช้ากินค่ำ จึงต้องการเงินสดมาใช้จ่ายมากกว่าต้องรอเงินโครงการที่จะโอนเข้ามาภายหลัง
หลังจากอธิบดีกรมการขนส่งทางบกออกมายืนยันรถโดยสารในระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท ยกเว้นสายการบิน อาทิ รถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก และรถสองแถว มีความพร้อมให้บริการแก่ผู้ได้รับสิทธิโครงการเราชนะ โดยจะติดสติกเกอร์แสดงสถานะเข้าร่วมโครงการให้ประชาชนเห็น เพื่อเป็นทางเลือกในการบรรเทาภาระค่าครองชีพ และลดการสัมผัสเงินสด เพื่อลดความเสี่ยงการระบาดของโควิด-19
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่สำรวจวินรถจักรยานยนต์รับจ้างและรถแท็กซี่ หน้าห้างสรรพสินค้าย่านพระราม 9 พบว่าผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง ส่วนใหญ่มีความเข้าใจในโครงการเราชนะ และเตรียมพร้อมรอเข้าร่วมโครงการด้วยใจจดจ่อ เพราะหวังว่าจะทำให้มีผู้โดยสารมากขึ้น แต่เท่าที่ผู้สื่อข่าวสังเกตดูพบว่ายังไม่มีการติดสติกเกอร์หรือสัญลักษณ์ร่วมโครงการเราชนะแต่อย่างใด
นายไกรสร ลุมผักแว่น ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง บอกว่า ได้ลงทะเบียน พร้อมโหลดแอปฯ ถุงเงินไว้แล้ว หลังมีเจ้าหน้าที่จากธนาคารกรุงไทยอำนวยความสะดวกมาให้คำแนะนำและบริการถึงหน้าวิน ระหว่างนี้เพียงรอให้มีเงินในโครงการเราชนะโอนเข้ามา ขณะที่ในแอปฯ ถุงเงิน เท่าที่เปิดดูยังไม่ปรากฏว่ามีช่องหรือแถบแสดงให้กดรับเงินจากโครงการ “เราชนะ” จึงยังไม่สามารถใช้งานได้ มองว่าโครงการนี้น่าจะทำให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ส่วนคนใช้บริการ หรือคนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างเชื่อว่าจะไม่สับสน เพราะมีประสบการณ์การใช้จ่ายจากโครงการ “คนละครึ่ง” มาแล้ว
เช่นเดียวกับนายประสิทธิ์ กอรัมย์ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างวินเดียวกัน บอกว่า ปัจจุบันคนขี่วินมีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนใช้เกือบทุกคน จึงเชื่อว่าการให้บริการจะไม่มีปัญหา แต่อาจมีบางคนที่ต้องเสียเงินซื้ออินเทอร์เน็ตเพิ่ม เพื่อมาให้บริการลูกค้า ส่วนตัวเชื่อจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เพราะรัฐช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และสะดวกมากขึ้นสำหรับคนที่อาจไม่มีเงินสด
ด้านวีรเดช วารีย์ ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ มองว่า โครงการนี้อาจจะไม่ส่งผลให้มีผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น เพราะคนที่จะนั่งรถแท็กซี่มีความพร้อมในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ตนเตรียมจะไปโหลดแอปฯ ถุงเงิน เพื่อเข้าร่วมโครงการนี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสาร ส่วนตัวเพิ่งได้รับการยืนยันสิทธิร่วมโครงการ “เราชนะ” และจะนำไปใช้ซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน
ส่วนคนที่ไม่เข้าร่วมโครงการ เช่น นายศิริชัย กอรัมย์ ให้เหตุผลว่าไม่เข้าร่วมโครงการนี้เพราะเชื่อว่าไม่มีประโยชน์ เสียเวลา และเชื่อว่าผู้ขับขี่รถแท็กซี่หลายคนก็จะไม่รับเงินค่าโดยสารผ่านโครงการนี้ เพราะยุ่งยาก ต้องรอเงินเข้าบัญชี ขณะที่คนขับแท็กซี่ส่วนใหญ่หาเช้ากินค่ำ การรับเงินสดจากผู้โดยสารจะสะดวกและตอบโจทย์มากกว่า.-สำนักข่าวไทย