ผู้สนับสนุน “ทรัมป์” บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา

วอชิงตัน 7 ม.ค. – ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลายร้อยคนพากันบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวานนี้เพื่อพยายามกดดันให้เปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งที่เขาพ่ายแพ้ในการชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเข้าไปยึดพื้นที่ในอาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตยอเมริกันทำให้ที่รัฐสภาต้องเลื่อนการประฃุมร่วมเพื่อรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ


เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยพาสมาชิกรัฐสภาออกจากอาคารและต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่งโมงในการเคลียร์พื้นที่ให้ผู้ประท้วงออกจากอาคารรัฐสภา หลังจากผู้สนับสนุนนายทรัมป์เหล่านี้ เข้าไปตามห้องโถงต่าง ๆ และเข้าไปค้นสิ่งของในสำนักงานต่าง ๆ ในอาคาร กลายเป็นภาพความโกลาหลและความวุ่นวายที่สร้างความตกตะลึงไปทั่ว เจ้าหน้าที่ตำรวจของกรุงวอชิงตันกล่าวว่า มีสตรีรายหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตในระหว่างที่เกิดความวุ่นวาย ส่วนสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่พบสิ่งต้องสงสัยว่าจะเป็นระเบิด 2 ลูก และปลดชนวนเรียบร้อยแล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศว่า อาคารรัฐสภามีความปลอดภัยแล้วเมื่อเวลาหลัง 17.30 น. หรือ ตรงกับเวลา 05.30 น. เช้าวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย และสมาชิกรัฐสภากลับเข้าห้องประชุมเพื่อเริ่มการประชุมในเวลา 20.00 น. หรือ ตรงกับ 8.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย เพื่อลงมติให้การรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ซึ่งเป็นประธานในการประชุม กล่าวเมื่อการประชุมกลับมาเริ่มขึ้นอีกครั้งว่า ผู้ที่ก่อการจลาจลในรัฐสภาวันนี้ ไม่ได้เป็นผู้ชนะ ในขณะที่นายมิตช์ แม็คคอนเนล ผู้นำวุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า รัฐสภาจะให้การรับรองผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยเขาเรียกบรรดาผู้สนับสนุนนายทรัมป์ที่ก่อเหตุความวุ่นวายว่า เป็นการก่อกบฎที่ล้มเหลว
เหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นหลังจากนายทรัมป์ ซึ่งไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง ปราศรัยกับผู้สนับสนุนหลายพันคนในบริเวณใกล้กับทำเนียบขาว ย้ำคำกล่าวอ้างที่ไม่มีหลักฐานว่า เขาถูกปล้นชัยชนะในการเลือกตั้ง เนื่องจากมีการทุจริตอย่างกว้างขวางและความไม่ชอบมาพากลเป็นจำนวนมาก เขายังบอกให้ผู้สนับสนุนเดินขบวนไปยังอาคารรัฐสภาเพื่อแสดงความไม่พอใจในกระบวนการเลือกตั้งและกดดันให้เจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง เขาเรียกร้องกระตุ้นให้ผู้สนับสนุนสู้ ทางด้านนายไบเดน จากพรรคเดโมแครต ที่ชนะนายทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน และจะเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ กล่าวว่า การกระทำของผู้ประท้วงเหมือนกับการปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

ทำบุญสงกรานต์

นายกฯ ทำบุญสงกรานต์ “อนุทิน” บอกขออภัยเรื่อง “ไชยชนก” แล้ว

นายกฯ ทำบุญสงกรานต์ เปิดให้ ครม.-ข้าราชการรดน้ำ ขอพร ขณะ “อนุทิน” ดักรอ บอกกราบขออภัยแล้ว ขณะเจ้าตัวไม่ติดใจ มองบางครั้งพูดในที่สาธารณะอาจตื่นเต้น เชื่อภูมิใจไทยเคลียร์กันได้ มีโอกาสจะคุยกับ “ไชยชนก” ด้วย รับคุยพรรคร่วมน้อยไป จากนี้จะปรับปรุง

Wall Street leaps after Trump announces 90-day tariff pause

หุ้นพากันทะยานขึ้นหลัง “ทรัมป์” พักใช้ภาษี 90 วัน

ตลาดหุ้นสหรัฐและทั่วโลกกลับมาทะยานขึ้นอย่างคึกคัก หลังจาก ปธน.ทรัมป์ประกาศพักการใช้มาตรการภาษีใหม่กับประเทศต่าง ๆ รวมทั้งไทยออกไปอีก 90 วัน

นำขบวนไฮโซเก๊

ขัง 2 สห. นำขบวนไฮโซเก๊ งดบำเหน็จ-ขั้นเงินเดือน

ขัง 2 สห. นำขบวนไฮโซเก๊ งดบำเหน็จ-ขั้นเงินเดือน “ภูมิธรรม” กำชับ ผบ.เหล่าทัพ เตือนกำลังพลรับจ็อบ ให้คำนึงถึงเกียรติข้าราชการ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อน-กทม.ฟ้าคะนอง 30%

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ส่วนภาคเหนือ อากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง