“จุลพันธ์” ชี้ลดภาษีสหรัฐเป็นศูนย์ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 9 เม.ย.-“จุลพันธ์” ชี้ลดภาษีสหรัฐเป็นศูนย์ ไม่ตอบโจทย์ เจรจาปรับกำแพงภาษี ต้องใช้อะไรต่อรอง ยืนยันต้องไม่สร้างภาระราคาสินค้าในประเทศ เผยเตรียมงบ 5,000 ล้าน ช่วย SME เข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลุกชี้แจงต่อญัตติ การขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกาว่า วันนี้เป็นวันที่ดีเป็นวันที่สมาชิกทุกคนร่วมกันอภิปรายในเรื่องที่เป็นปัญหาค่อนข้างหนักอกของประเทศไทยเน้นเรื่องของอัตราภาษีที่ได้เกิดขึ้นใหม่จากสหรัฐอเมริกา ข้อเสนอแนะและข้อห่วงใยที่เป็นประโยชน์ทั้งภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเหตุการณ์ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาขึ้นกำแพงภาษีที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีการเตรียมการมาเป็นเวลานาน มีการตั้งคณะคณะทำงาน ตั้งแต่ช่วงวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา มีการติดตามมาโดยตลอดว่ามาตรการด้านภาษีหากเกิดเกิดขึ้นจะเกิดขึ้นในรูปแบบใด เชื่อว่าไม่มีกระทรวงการคลัง หรือหน่วยงานรัฐใดในโลกที่จะคาดคำนวณได้ เนื่องด้วยสูตรในการคำนวณค่อนข้างที่จะหลุดไปจากหลักการทางเศรษฐศาสตร์พื้นฐาน เป็นการคิดคำนวณที่แปลกประหลาด อย่างแรกเลยคืออเมริกาใช้สูตร Balance of trade หรือเรื่องการขาดดุลทางการค้ามาหารด้วยจำนวนปริมาณสินค้าที่นำเข้าสู่สหรัฐอเมริกา เช่นไทยได้ดุลการค้าสหรัฐที่ 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ มีการส่งออกไปยังสหรัฐที่ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อหารออกมาจะได้ที่ 72% สหรัฐได้นำมาหารครึ่งและปรับเป็นอัตราภาษี


โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โจทย์แรกที่ต้องคิดคือ การห่วงใยต่อพี่น้องเกษตรกร พี่น้องประชาชนภาคธุรกิจโดยเฉพาะ Sme ภายในประเทศที่จะนำเข้าสินค้าใดก็ตามต้องไม่เป็นการสร้างภาระต่อราคาสินค้าภายในประเทศที่ทางทีมเจรจาจะนำไปพูดคุย ต้องขอบคุณสมาชิกที่อภิปรายโดยไม่ตั้งคำถามว่ารัฐบาลจะเอาสิ่งใดไปเจรจาต่อรองระหว่างประเทศในลักษณะทวีปภาคี เนื่องจากการเจรจาในลักษณะนี้รัฐบาลจะนำมากางบนโต๊ะให้ดูได้ทั้งหมดว่ามีอาวุธอะไรอยู่ในสต๊อกบ้าง หรือรัฐบาลมีการเจรจาใดที่นำไปใช้บ้างทั้งหมดนี้จะนำมาเปิดทั้งหน้าตักเพื่อให้ผู้ที่ไปเจรจาจะได้ความยืดหยุ่นและมีศักยภาพในการเจรจาเอาผลประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทีมเจรจาต้องมีความเข้าใจและอาศัยความเป็นพันธมิตรทางการค้าที่ยาวนาน

ทั้งนี้นายจุลพันธ์ กล่าวว่า หากดูจากประเทศในภูมิภาคเดียวกันที่มีการประกาศลดอัตราภาษีสหรัฐเป็นศูนย์ สุดท้ายคำตอบที่รับคือยังไม่ตอบโจทย์ ดังนั้นจึงต้องมาดูว่าโจทก์ของไทยนอกจากเรื่องอัตราภาษี เรื่องขาดดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกายังมีโจทก์ใดเพิ่มเติม สำหรับการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกาเมื่อเกิดขึ้นถือว่า Balance of trade ได้ขยับขึ้นจนกลายเป็น New Normal ของการค้าโลก ดังนั้นต้องอยู่และปรับตัวให้ได้ รัฐบาลเองก็จะช่วยสร้างการปรับตัวให้เอกชนที่ขณะนี้ได้เตรียมวงเงินไว้ 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือบริษัทที่ส่งออก และ นำเข้าไปยังสหรัฐเข้าถึงสินเชื่อได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และจะมีมาตรการอื่นตามมาโดยเฉพาะภาคการเกษตรที่ได้รับผลกระทบ และส่วนอื่นที่รัฐบาลต้องดำเนินต่อ


ทั้งนี้หากวิเคราะห์กันตามตรงเรื่องนี้เป็นผลกระทบเชิงลบ หากหาโอกาสในวิกฤตพบ ก็จะมีแนวทางตอบโต้ในหลายวิธี เช่น บางประเทศตอบโต้โดยการขึ้นภาษีแข่งกัน ซึ่งหากไทยเจรจาได้สำเร็จและมีสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดอาจจะเป็นช่องว่างที่สินค้าไทยสามารถนำสู่การค้าที่เพิ่มขึ้นได้ หรือบางประเทศที่ตัดสินใจออกมาตรการภาษี เช่น Digital Services Tax ที่เกี่ยวกับแพลตฟอร์มออนไลน์สัญชาติอเมริกา ที่ไทยจะมองช่องโหว่นี้อย่างไรให้ได้ประโยชน์ อย่างน้อยก็ตามไม่ปฏิเสธว่าเรื่องนี้กระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

ทิศทางการเมืองหลังคดี “ยิ่งลักษณ์” บวกปมฮั้ว สว.

24 พ.ค. – ทิศทางการเมืองไทย ไปทางไหน ? หลังศาลสั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้าน ปิดคดีจำนำข้าว ส่วนปมคดีฮั้วเลือก สว. จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พูดคุยกับ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมชายแดนแม่สาย หวั่นสารพิษท่วม

เชียงราย 24 เม.ย. – เพิ่งเริ่มต้นฤดูฝน แต่ฝนตกหนักในเมียนมา ทำให้แม่น้ำสายไหลทะลักท่วมชายแดนแม่สาย ที่เชียงราย ชาวบ้านขนของหนีน้ำอลหม่าน หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้ว และยังต้องกังวลกับสารพิษปนเปื้อนมากับน้ำท่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย