ชลบุรี 4 ม.ค.- กองทัพเรือส่งมอบโรงพยาบาลสนามพลเรือน แหล่งที่ 2 ที่จันทบุรี ให้สาธารณสุขใช้รองรับผู้ป่วยโควิด-19
พล.ร.ต.นพดล ฐิตวัฒนะสกุล ผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ผู้แทนกองทัพเรือ ส่งมอบโรงพยาบาลสนามให้แก่สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี เพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ จ.จันทบุรี โดยมีนายฤหัส ไชยศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และ นพ.อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี เป็นผู้ร่วมรับมอบ ณ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 16 บ้านจันทเขลม ต.จันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี สำหรับโรงพยาบาลสนามพลเรือน สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 16 บ้านจันทเขลม มีจำนวน 6 อาคาร ประกอบด้วย อาคารควบคุม 1 อาคาร, อาคารรับผู้ป่วย 4 อาคาร และอาคารประกอบเลี้ยง 1 อาคาร สามารถรองรับผู้ป่วยได้สูงสุด 232 คน
ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ในพื้นที่ จ.จันทบุรี มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น จากข้อมูลวานนี้ (3 ม.ค.) มีผู้ติดเชื้อสะสมจำนวน 122 ราย ซึ่งยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล แต่เนื่องด้วยโรงพยาบาลใน จ.จันทบุรี เหลือจำนวนเตียงที่ใช้สำหรับรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 เพียง 31 เตียงเท่านั้น ทางจังหวัดจึงขอความอนุเคราะห์กองทัพเรือใช้สถานที่เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ซึ่งกองทัพเรือได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์รองรับผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ตามที่ พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ สั่งการไว้ก่อนหน้าแล้ว ซึ่งผู้ป่วยที่จะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ จะเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลจนมีอาการดีขึ้น หรือไม่มีอาการรุนแรง และจะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนาม จนกว่าจะมีผลเป็นลบ หรือตรวจไม่พบเชื้อ
กองทัพเรือตระหนักถึงความสำคัญและเล็งเห็นปัญหาดังกล่าว จึงเตรียมพื้นที่เพื่อสนับสนุนหน่วยงานราชการต่างๆ และกระทรวงสาธารณสุข ช่วยเหลือประชาชน จึงมอบหมายให้หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จัดเตรียมสถานที่เป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคนา 2019 (COVID-19) กรณีเกินขีดความสามารถในการรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลหลักในพื้นที่ จ.ระยอง ชลบุรี และจันทบุรี จำนวน 3 แหล่ง ประกอบด้วย ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี สนามฝึกกองทัพเรือ บ้านจันทเขลม จ.จันทบุรี และศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง.-สำนักข่าวไทย