ราคาหน้ากากอนามัยพุ่งหลายเท่าตัว

กรุงเทพฯ 22 ธ.ค.-หลังพบผู้ป่วยโควิด-19 ในไทยเพิ่มขึ้นหลายจังหวัด ทำให้ประชานกลัวโควิดรอบใหม่ และแห่ซื้อหน้ากากอนามัยไว้ป้องกันจำนวนมาก ล่าสุดพบปรับราคาแพงขึ้นรายชั่วโมง เดิมขาย 20 บาท พุ่งเป็น 100-120 บาท


ทีมข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่สำรวจ ย่านสำเพ็ง ดูบรรยากาศขายหน้ากากอนามัย หลังจากโควิด–19 ระบาดรอบใหม่ โดยย่านสำเพ็งคึกคักมาก มีประชาชนทยอยมาเลือกซื้อหน้ากากอนามัยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ร้านค้าต่างๆ มีการปรับราคาขายสูงขึ้นทุกร้าน จากเดิมมีร้านขายหน้ากาก 5-6 ร้าน วันนี้ เพิ่มเป็นกว่า 100 ร้านค้า โดยมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งของจีน ญี่ปุ่น และไทย ผู้ใหญ่และเด็ก หลากสีสัน ทั้งบรรจุอยู่ในกล่อง และใส่ถุงพลาสติกซีลไว้

แม่ค้าขายหน้ากากอนามัยรายหนึ่ง เล่าว่า ก่อนที่จะมีข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หน้ากากอนามัยบรรจุ 50 แผ่นขาย 20 บาท ตอนนี้โรงงานส่งปรับราคาขึ้นเป็นรายชั่วโมง ทำให้ต้องปรับราคาขายหน้าร้านตาม ล่าสุด ขายแพ็กละ 50 แผ่น ราคา 100-120 บาท ช่วง 2-3 วันนี้ มีประชาชนมาเลือกซื้อคึกคัก มากกว่าเท่าตัวตลอดทั้งวัน พร้อมฝากให้ช่วยตรวจโรงงานที่ปรับขึ้นราคารายชั่วโมง เนื่องจากไม่อยากขายของแพงให้ลูกค้าในช่วงวิกฤติ


อีกจุดหนึ่งที่ทีมข่าวลงพื้นที่ คือ บริเวณอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นศูนย์กลางกรุงเทพฯ ในวันนี้ร้านค้าต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ตลาดค่อนข้างเงียบเหงา ไม่ค่อยมีคนเลือกซื้อสินค้า คนหายไปกว่า 50% ตั้งแต่มีข่าวโควิดระบาดใหม่ ส่วนร้านค้าที่ขายหน้ากากอนามัย ต่างยอมรับมีการปรับขึ้นราคาสินค้า เพราะโรงงานที่รับมาปรับราคาขึ้นมีทั้งขายเป็นกล่องละ 100 บาท 50 ชิ้น และแบ่งขาย 3 ชิ้น 20 บาท ส่วนข้างกล่องหน้ากากอนามัยส่วนใหญ่พบว่า ผลิตจากประเทศจีน

เจ้าของร้านขายหน้ากาก ยอมรับว่าพอเกิดการระบาดใหม่ทำให้ลูกค้ามาหาซื้อหน้ากากจำนวนมากขึ้นกว่าเท่าตัว ส่วนราคาหน้ากากมีการปรับตัวขึ้นจริง จากเดิมขายกล่องละ 80 บาท เป็น 100 บาท เนื่องจากโรงงานประกาศขึ้นราคาอีกกล่องละ 20 บาท แต่หน้ากากผ้ายังขายอันละ 20 บาท เท่าเดิมเนื่องจากเป็นงานฝีมือของกลุ่มแม่บ้านในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ที่จังหวัดสงขลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดเผยถึงการตรวจสอบเรื่องหน้ากากอนามัยที่อาจจะมีการกักตุนหรือขายเกินราคาหลังจากที่เกิดการระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 โดยระบุว่าหน้ากากอนามัยที่เป็นสินควบคุม คือ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ซึ่งให้ขายได้ไม่เกินชิ้นละ 2 บาท 50 สตางค์ หากพบขายเกินกว่านี้ให้แจ้งสายด่วน 1569 หรือพาณิชย์จังหวัด ซึ่งมีความผิดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการมีโทษจำคุก แต่จากการตรวจสอบขณะนี้ยังไม่พบขายเกิดราคาและยังมีวางจำหน่ายตามตลาดทั่วไป แต่สำหรับประชาชนควรสวมใส่หน้ากากผ้าแทนเพราะสามารถซักและใส่ซ้ำได้ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน