นักวิชาการฟันธงเศรษฐกิจไทยปีหน้าฟื้น


กรุงเทพฯ 18 ธ.ค. – หอการค้าไทยฟันธงเศรษฐกิจไทยปี 64 มีโอกาสกลับมาเป็นบวกร้อยละ 2.8 ส่งออกบวกร้อยละ 3.5 จากมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 นักท่องเที่ยวกลับมาไทยมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง


นายธนวรรธ์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ทางศูนย์พยากรณ์ฯ ได้ประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทย ปี 2563-2564 โดยในปีนี้ ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกนะทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 จนทำให้เศรษฐกิจทั้วโลกและเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากหนัก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว รวมถึงความเปราะบางทางการเมือง เงินบาทแข็งค่าเร็วกว่าปกติ ความเสี่ยงจากปัญหาภัยแล้ง การขาดแคลนตู้ขนส่งสินค้าเพื่อการส่งออกและความไม่แน่นอนของความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนและอีกหลายปัจจัยด้วยกัน

ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวที่ส่งผลกระทบทำให้เศรฐกิจไทยในปีนี้ติดลบทุกไตรมาส แต่ก็เริ่มติดลบน้อยลงในช่วงไตรมาสที่ 3 จนทำให้คาดการณ์ว่าเศรษกิจไทยในปีนี้จะติดลบ โดยอัตราการเติบโตจะติดลบอยู่ที่ร้อยละ 6.3 การส่งออกติดลบร้อยละ 7.4 อัตราเงินเฟ้อติดลบร้อยละ 0.9


อย่างไรก็ตาม คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 64 ตามปัจจัยบวกที่สำคัญไปทั่วโลก คือ การมีวัคซีนป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ไทยน่าจะได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับไทยแม้ในช่วงนี้ยังวิตกกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 ว่าจะเกิดขึ้นรอบ 2 แต่ความร่วมมือของประชาชนที่จะดูแลป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ดี ทำให้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 2.8 การส่งออกเป็นบวกร้อยละ 3.5 อัตราเงินเฟ้อจะบวกร้อยละ 1.0

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเป็นบวก นอกจากทั่วโลกมีวัดซีนป้องกันปัญหาโควิด-19 ได้จะทำให้กิจกรรมต่างๆเกิดขึ้นตาม เห็นได้ชัดยอดจองซื้อรถยนต์ภายในงานมอเตอร์โชว์เริ่มมีมากขึ้น ความกังวลการเมืองเริ่มคลี่คลาย ปัญหาภัยแล้งแม้ไม่รุนแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ภาคการส่งออกแม้จะยังเกิดปัญหาการล็อกดาว์นในต่างประเทศจนไม่มีตู้ขนส่งสินค้ามากนัก แต่เชื่อว่าหลังจากทุกประเทศมีการฉีดวัคซีนจนคลายความกังวลน่าจะคลายล็อกดาว์นส่งออกก็จะกลับมาเหมือนเดิมได้ ทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 64 จะเริ่มฟื้นในช่วงปลายไตรมาส 2 ในหลายกิจกรรมจะกลับมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจะกลับมาเป็นปกติก่อนเกิดโควิด-19 ได้ดีในปี 65 อย่างแน่นอน


นอกจากนี้ เห็นว่าโครงการคนละครึ่งของรัฐ เห็นด้วยที่รัฐบาลควรดำเนินการต่อเนื่องในปี 64 เพราะเม็ดเงินที่รัฐบาลสนับสนุนลงเข้าระบบอย่างแท้จริงและเห็นผลประชาชนเข้าถึงเรียนรู้การใช้ระบบอินเทอร์เน็ตได้ดี ดังนั้น จึงมองว่าในช่วงไตรมาสที่ 1-2 ยังจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นภาคการใช้จ่ายของประชาชนและไตรมาสที่ 3 – 4 ควรหันมาใช้มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวได้อย่างเต็มที . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร