ทำเนียบ 8 ธ.ค.- “อนุทิน” ย้ำยังไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย พร้อมหนุนภาคธุรกิจท่องเที่ยวฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ติดเชื้อโควิคที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้หลาบจำ
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า สถานการณ์ covid-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในขณะนี้ ยังไม่มีการแพร่ระบาด เป็นเพียงการพบผู้ติดเชื้อที่นำเชื้อเข้ามาจากต่างประเทศ และพบคนที่ติดเชื้อเพิ่มซึ่งมีความใกล้ชิดกับผู้ที่นำเชื้อเข้ามา จุดเริ่มต้นเป็นกลุ่มคนที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ เป็นการเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพราะไม่ต้องการถูก กักตัว 14 วัน ถือเป็นความเห็นแก่ตัว ไร้จิตสำนึกและความรับผิดชอบ รัฐบาลก็จะใช้กระบวนการตามกฎหมายดำเนินการเอาผิดกับคนเหล่านี้ และอยากขอความร่วมมือบุคคลที่จะเดินทางกลับเข้าประเทศขอให้ทำตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบปฏิบัติ เมื่อกลับมาถึงจะต้องถูกกักตัว 14 วันเพื่อเฝ้าระวังโรค ตรวจว่าติดโควิดหรือไม่ หากติดเชื้อก็จะได้รับการรักษาด้วยใช้ยาเวชภัณฑ์อย่างดี
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศล็อกดาวน์จังหวัดใดในประเทศ ส่วนที่มีข้อกังวลว่าจะมีคนไทย เดินทางกลับจากประเทศลาวกว่า 500 คน อาจเกิดเหตุการณ์เดียวกับกรณีของประเทศเมียนมาร์นั้น เชื่อว่าฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง จะตรึงกำลังและตรวจตราตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด แต่จะหวังพึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายเดียวไม่ได้ทุกคนจะต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา รวมถึงผู้ที่จะเดินทางกลับมาควรที่จะแสดงความรับผิดชอบเข้าประเทศมาอย่างถูกต้อง
สำหรับการที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหาย 20 ล้านบาทกับผู้ติดเชื้อโควิดที่หลบหนีเข้าเมืองและทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตนสนับสนุนเห็นควรที่จะต้องฟ้องเอาผิด กับกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เพื่อให้หลาบจำและจะไม่ทำผิดอีก เพราะเพียงแค่ความเห็นแก่ตัว แต่สิ่งที่ตามมาทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศ ในส่วนของรัฐบาลคงไม่ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน แต่จะดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่อย่างเด็ดขาด ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวให้ข้อมูลกับประชาชนทุกวันเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนของข้อมูล .- สำนักข่าวไทย