กรุงเทพฯ 3 ธ.ค. – นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ย้ำผู้ใช้สิทธิ์ “ช้อปดีมีคืน” สมัครใช้ “คนละครึ่งเฟส2” ไม่ได้ วอนทุกฝ่ายร่วมมือรัฐจับจ่าย-ท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ ด้าน ส.อ.ท.คาดน้ำท่วมหากลดลงรวดเร็วไม่กระทบกระบวนการผลิต
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า แม้จะมีการระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 จากผู้ที่ลักลอบเข้ามาจากเมียนมา โดยไม่มีการกักตัว และยังเกิดสถานการณ์ปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ แต่หากทุกฝ่ายร่วมมือกันคาดว่าจะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก โดยในส่วนของน้ำท่วมภาคใต้ การช่วยเหลือผู้เดือดร้อน ทุกฝ่ายและรัฐบาลเร่งเข้าไปร่วมดูแล ซึ่งขณะนี้หน่วยงานสังกัดกระทรวงพลังงาน ทั้งกลุ่ม ปตท. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็ได้ ระดมช่วยเหลือถุงยังชีพ และด้านอื่น ๆ โดยไม่ต้องมีการสั่งการ
ส่วนผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ จากคนที่ลักลอบเข้ามาจากเมียนมานั้น หากทุกจังหวัด เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ใช้ตัวอย่างจากระยอง ร่วมกันป้องกันโควิด-19 อย่างจริงจัง มีการสร้างความมั่นใจต่อนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวร่วมกันไม่ยกเลิกการจองที่พัก เศรษฐกิจไทยก็เดินหน้าไปได้ ขณะที่รัฐบาลมีแผนกระตุ้นการใช้จ่ายต่อเนื่องซึ่งจะสำเร็จได้ก็ต้องอยู่กับประชาชนร่วมมือออกมาใช้จ่ายและท่องเที่ยว
มาตรการล่าสุดที่ออกมาทางคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) หรือ ศบศ.เห็นชอบ ทั้งเพิ่มปริมาณผู้ใช้สิทธิ “เราเที่ยวด้วยกัน” เป็น 15 ล้านคน และแก้เงื่อนไขอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวโครงการ “เที่ยวไทยวัยเก๋า” และเพิ่มมาตรการเฟส 2 ในโครงการ “คนละครึ่ง” เริ่มใข้สิทธิวันที่ 1 มกราคม 2564 เปิดลงทะเบียนวันที่ 16 ธันวาคม 2563 อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าคนที่เลือกใช้สิทธิ “ช้อปดีมีคืน” ก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์คนละครึ่งระยะที่ 2 ได้ เพราะต้องสร้างความเป็นธรรมในการได้ประโยชน์กระจายสิทธิให้ทั่วถึง
“ทุกโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐออกมาจะสำเร็จได้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะร่วมมือกันมากน้อยแค่ไหน โดยในส่วนของโครงการท่องเที่ยวผู้สูงวัยนั้น คาดหวังจะทำให้เกิดการพักค้างคืนในโรงแรม รีสอร์ท ในวันธรรมดา จากปัจจุบัน ห้องพักส่วนใหญ่จะมีผู้พักหลักในช่วงวันศุกร์-อาทิตย์เท่านั้น และใครอยากได้สิทธิคนละครึ่งเฟส 2 ก็ต้องเลือกไม่ขอคืนภาษีช้อปดีมีคืน” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) และกรรมการ ศบศ. กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นรอบใหม่ที่ ศบศ.เห็นชอบวานนี้ คาดว่าจะมีส่วนเพิ่มการใช้จ่ายของภาคประชาชน มีผลต่อจีดีพีประมาณร้อยละ 0.025 ส่วนเรื่องการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ เชื่อมั่นว่าภาครัฐและประชาชนจะร่วมมือกันคุมเข้มได้ ซึ่งต้องยอมรับว่า หากวัคซีนยังไม่มีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย เพื่อคุมเข้มโควิด-19 ได้ การติดเชื้อก็ย่อมเกิดขึ้นได้อยู่ตลอดเวลา แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะร่วมกันคุมเข้มไม่ให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ได้อย่างไร และต้องรักษาให้ทันท่วงทีเพื่อไม่ให้ผู้ป่วย ซึ่งเชื่อมั่นว่าภาครัฐจะคุมสถานการณ์ได้
ส่วนเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ทาง ส.อ.ท.ได้ร่วมกันติดตามสถานการณ์ เพื่อร่วมมือกันช่วยเหลือผู้ประสบภัย หากน้ำลดอย่างรวดเร็ว ก็คาดว่าจะไม่กระทบกระทบกระบวนนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าด้านการเกษตรเป็นหลัก -สำนักข่าวไทย