สำนักข่าวไทย 20 พ.ย. – ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ย้ำเกณฑ์การพิจารณาซื้อวัคซีนโควิด-19 เน้นเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนเป็นสำคัญ รวมกับปัจจัยเสริมอื่น ทั้งประสิทธิภาพ คุ้มค่า ราคา โดยฝ่ายการแพทย์จะทำหน้าที่หาข้อมูล และให้ฝ่ายการเมืองตัดสินใจ
นพ.ทวี โชติพิทยะสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค และกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการพิจารณา การซื้อวัคซีนโควิด-19 ว่า ขณะนี้ไทยมีความร่วมมือการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ร่วมกับบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำกัด ส่วนการจัดซื้อวัคซีนนั้น ยังต้องรอให้ทางฝ่ายการเมืองเป็นผู้พิจารณาเลือกเปรียบเทียบในแต่ละบริษัทว่าจะเลือกบริษัทใด เนื่องจากการทดลองวัคซีนโควิด-19 ส่วนใหญ่ทุกบริษัทอยู่ในการทดลองเฟส 3 ซึ่งเป็นการทดลองในคน แต่เกณฑ์หลักๆ ที่จะนำมาพิจารณาได้แก่
1. ความปลอดภัย โดยเรื่องนี้ต้องมาเป็นอันดับ 1 ของการพิจารณา
2. ประสิทธิภาพ เป็นอย่างไร ต้องมีการติดตามผล
3. สร้างภูมิคุ้มกันได้นานแค่ไหน เพราะเนื่องจากวัคซีน โควิด-19 เป็นเรื่องใหม่ บางบริษัท ต้องใช้การฉีดมากถึง 2 เข็ม
4.ทางบริษัท มีการวางจำหน่าย ขายในท้องตลาดหรือไม่ เพราะว่าบางบริษัท อย่างโมเดิร์นนา ของสหรัฐ เป็นการผลิตที่ได้รับทุนวิจัยจากสหรัฐอเมริกา จึงอาจไม่มีการจำหน่ายให้กับประเทศอื่น
และ 5. ราคาที่จำหน่ายในท้องตลาด เป็นเรื่องของกำลังทรัพย์ และการตกลงกับบริษัท เพราะว่า อย่างบางประเทศมีการตกลงว่าจำหน่ายในราคา 6 ดอลลาร์สหรัฐ แต่สำหรับบางประเทศอาจจำหน่ายให้ 12 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น จึงถือเป็นปัจจัยที่มีการแตกต่าง
นพ.ทวี กล่าวว่า ทุกสิ่งเหล่านี้ต้องนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา ซึ่งยังไม่มีการตัดสินใจ ชัดเจนว่าจะเลือกบริษัทใดเพิ่ม สิ่งที่ฝ่ายการแพทย์ต้องทำคือการเรียกดูข้อมูลทางวิชาการจากบริษัทที่ปล่อยข้อมูลและข่าวออกมาในสาธารณะเพิ่มเติม เพื่อประกอบการตัดสินใจ และการศึกษาวิจัยและทดลอง ต้องคิดเสนอว่า เป็นการทดลองในคนกลุ่มหนึ่ง ตัวเลขและเปอร์เซ็นต์ต่างๆ ต้องนำมาเทียบเคียง พิจารณาร่วมกันทั้งประสิทธิภาพ ภูมิคุ้มกัน ราคา เพื่อประกอบการตัดสิน เพราะเมื่อตัดสินใจ เราอาจต้องซื้อเพิ่มเติม เพราะวัคซีนต้องฉีดถึง 2 เข็ม และห่างกัน 1 เดือน แต่ทั้งนี้ยังต้องดูเอกสารหลักฐานวิชาการและรายละเอียดของแต่ละบริษัท .- สำนักข่าวไทย