สุวรรณภูมิแจงกรณีค่าจอดรถ 8 เดือน เกือบ 6 หมื่นบาท

กรุงเทพฯ 18 พ.ย. – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิชี้แจงกรณีผู้ใช้บริการจอดรถค้างคืนไว้ที่สนามบินนาน 8 เดือน เสียค่าจอดรถเกือบ 60,000 บาท ยืนยันแจ้งสิทธิ์ให้ขอลดหย่อนแล้ว ในช่วงผู้โดยสารรับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19


นายสุทัศน์ สุวรรณผ่องใส รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายการพาณิชย์) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ตามที่มีสื่อมวลชนเผยแพร่คลิปผู้ใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้จอดรถค้างคืนไว้ที่อาคารจอดรถโซน 2 เป็นเวลานาน 8 เดือน ทำให้ต้องจ่ายเงินค่าที่จอดรถสูงเกือบ 60,000 บาท งภายหลังที่คลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไปทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า ทสภ.ไม่ให้ความช่วยเหลือและลดอัตราค่าบริการที่จอดรถให้ นั้น

ทสภ.ขอชี้แจงให้ทราบว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถ TOYOTA รุ่น RIVO สีแดง หมายเลขทะเบียน ข – 3438 ชลบุรี เจ้าของรถได้นำรถเข้ามาจอดที่อาคารจอดรถโซน 2 ทสภ. ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2563 เวลา 06.07 น. ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 เวลา 19.24 น. รวมระยะเวลาจอด 239 วัน โดยผู้ที่นำรถออกไปให้นั้นเป็นเพื่อนกับเจ้าของรถ ซึ่งปัจจุบันยังคงอาศัยอยู่ต่างประเทศ เนื่องจากโดนยกเลิกเที่ยวบินจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ จึงได้ติดต่อให้เพื่อนมานำรถออกไป เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 โดยมียอดค่าอัตราค่าบริการจอดรถจำนวน 59,750 บาท ซึ่งคำนวณมาจากอัตราค่าบริการจอดรถของ ทสภ. วันละ 250 บาท คูณกับจำนวนวันที่เข้าจอด


อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้บริการว่าหากมีความประสงค์จะขอลดอัตราค่าบริการจอดรถสามารถทำได้ โดยต้องนำตั๋วเครื่องบินทั้งขาไปและขากลับ รวมทั้งเอกสารการยกเลิกเที่ยวบินมาเป็นหลักฐาน แต่เพื่อนเจ้าของรถยินดีที่จะจ่ายเงินตามจำนวนจริง โดยให้เหตุผลว่าไม่ประสงค์ที่จะยื่นหลักฐานดังกล่าว เนื่องจากต้องรอเอกสารในการยื่น

นายสุทัศน์ กล่าวต่อว่า ทสภ.ยินดีที่จะลดอัตราค่าบริการที่จอดรถให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งต้องยื่นเอกสาร ได้แก่ หลักฐานตั๋วเครื่องบินทั้งขาไปและขากลับ เอกสารการกักตัวจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เอกสารการยกเลิกเที่ยวบิน เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการติดต่อขอลดอัตราค่าบริการจอดรถไปแล้วจำนวน 6 ราย

ทั้งนี้ หากผู้ใช้บริการมีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำในการใช้บริการ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการอาคารจอดรถยนต์ โทรศัพท์ 0 2132 9511 หรือติดต่อ AOT Contact Center โทร. 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ

“อันวาร์” โพสต์ภาพคุย “ทักษิณ” พร้อมคณะ สร้างสันติภาพเมียนมา

“อันวาร์” ประธานอาเซียน โพสต์ภาพคุย “ทักษิณ” พร้อมคณะ แลกเปลี่ยนการสร้างสันติภาพในเมียนมา ก่อนประชุมทางไกลหารือ NUG

ตึกถล่ม

นายกฯ เผยตำรวจรวบรวมหลักฐานแล้ว ตึก สตง.ถล่ม จ่อหมายจับเร็วๆ นี้

นายกฯ ถก ผบ.ตร.-อธิบดีดีเอสไอ คืบหน้าคดีอาคาร สตง. ถล่ม ระบุตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว เตรียมออกหมายจับเร็วๆ นี้ ย้ำต้องมีผู้รับผิดชอบ กระทุ้งหน่วยงานให้ความร่วมมือส่งข้อมูล-เอกสาร เพื่อหารายละเอียดเอาผิด ย้ำรับไม่ได้สูญเสียหลายชีวิต