จนท.การเงินโดนก่อน “อมเบี้ยเลี้ยงโควิด”

กทม.26 ต.ค.- จเรตำรวจแห่งชาติ เผยผลสอบตำรวจอมเงินเบี้ยเลี้ยงโควิดทั่วประเทศ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่การเงินโดนก่อน


พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมผลการตรวจสอบปมทุจริตเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 ที่ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ได้เงินไม่ครบตามจำนวนที่เบิก หรือไม่ได้รับเงินตามที่มีการเบิกจ่ายจริง หรือมีการโอนเงินเข้าบัญชี แล้วให้ข้าราชการตำรวจเบิกเงินแล้วนำเงินมาคืน ภายหลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จแล้วรายงานผลภายใน 10 วัน โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับกองบัญชาการตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรภาค 1-9 ร่วมประชุมเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง

พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า รายงานผลการประชุมพบว่า มีการดำเนินการไม่เป็นไปตามระเบียบหลายหน่วยงานทั้งในระดับกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 คือ โอนให้กับผู้ไม่มีสิทธิ์ หรือโอนให้ผู้ที่มีสิทธิ์แล้วถอนออกมา โดย ผบ.ตร.สั่งให้ดำเนินคดีผู้กระทำผิดทุกราย พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ยืนยันว่าตำรวจที่ทำงานตั้งด่านต้องได้เงินเต็มตามจำนวนหมดทุกหน่วย


เมื่อแยกความผิดตามท้องที่ พบว่ากองบัญชาการตำรวจภูธรภูธรภาค 1 มีที่ จ.สระบุรี , นนทบุรี ซึ่งตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนแล้ว กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3  มี จ.สุรินทร์, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4  สภ.ท่าลี่ และอื่นๆ ในจ.เลย ,  สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และหลายท้องที่ ของ จ.มหาสารคาม, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงราย กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และ 7 ยังไม่พบ, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช, สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต โดนสั่งภาคทัณฑ์ไปแล้ว, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ตรวจพบที่ จ.พัทลุง โดยระเบียบ ก.ตร.กำหนดเบี้ยเลี้ยงให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกชั้นยศชั่วโมงละ  60 บาท ไม่เกิน 7 ชั่วโมงต่อวัน ตามหลักต้องโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของเจ้าหน้าที่โดยตรง หากโอนไปบัญชีอื่นใดก็ผิดหมด เพราะเรามีเส้นทางการเงินที่ชัดเจน จะมอบอำนาจให้คนอื่นโอนไม่ได้ โดยผู้กระทำผิดส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่การเงินที่กระทำเป็นรายบุคคลทั้งหมด ยังไม่ใช่เครือข่าย บางแห่งอาจจะทุจริตทั้งจังหวัด บางแห่งอาจจะเฉพาะโรงพัก ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าเป็นการจงใจหรือเกิดจากข้อผิดพลาด สำหรับในนครบาลต้องดูว่ามีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจในการดูแลการชุมนุมหรือไม่ ทั้งนี้ มีโรงพักที่ร้องเรียนมาไม่ถึงสิบแห่ง ยังมีหน่วยอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ร้องเรียนเข้ามา แต่ก็ต้องตรวจสอบย้อนหลังทั้งหมดเช่นกัน

พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวอีกว่า สำหรับขั้นตอนการสืบสวนข้อเท็จจริง ระเบียบ ก.ตร.กำหนดเวลาทำงานใน 60 วันหรือเร็วกว่านั้น หากไม่ทันก็ขยายเวลาให้ผู้ถูกกล่าวหา หาเหตุผลมาหักล้าง และตั้งกรรมการตรวจสอบว่าผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งโทษสูงสุดคือสั่งปลดออกจากราชการ และคดีอาญาก็ต้องยื่นเรื่องไปที่ ป.ป.ช.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา