ทีมบริหารเครือสารสาสน์ แถลงขอโทษผู้ปกครอง

ศธ.30 ก.ย.-ทีมผู้บริหารเครือโรงเรียนสารสาสน์ แถลงขอโทษที่ทำให้ผู้ปกครองผิดหวัง เสียใจและยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ขอแก้ตัว แต่ขอโอกาสแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด เพื่อระบบการศึกษาที่ดีในอนาคต


ดร.พิสุทธิ์ ยงค์กมล และดร.สุทธิพงศ์ ยงค์กมล ทีมผู้บริหารเครือโรงเรียนสารสาสน์ แถลงเปิดใจกรณีครูทำร้ายนักเรียน ภายหลังประชุมและทำข้อตกลงร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการแล้ว

ดร.พิสุทธิ์ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่ผู้บริหารรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก โดยไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในโรงเรียน ที่ผ่านมาโรงเรียนสารสาสน์ มีแนวทางการทำงานที่ชัดเจนในเรื่องนโยบายการต่อต้านการกลั่นแกล้งในโรงเรียน (Bully)เบื้องต้น ต้องขอโทษผู้ปกครอง และสังคมอีกครั้ง และจะไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบที่เกิดขึ้น


ยืนยันจะแก้ไขปัญหาด้วยความจริงใจอย่างตรงไปตรงมาเสมือนว่าพวกเราเป็นผู้ปกครอง โดยทุกข้อกำหนดที่ตกลงร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการวันนี้จะนำไปปฏิบัติช่วยเหลือแก้ไข และพร้อมรับฟังข้อเสนอเพิ่มเติมจากผู้ปกครอง โดยได้สั่งการให้โรงเรียนในเครือสารสาสน์ทั้งหมด จัดตั้งศูนย์ร้องเรียนที่ห้องธุรการ โดยจะมีการปรับระบบคุณภาพของการบริหารโรงเรียน รวมถึงบุคคลากรให้มีธรรมาภิบาล รวมถึงจะมีการตรวจสุขภาพของครูผู้สอน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

ส่วนกรณีที่นายพิบูลย์ ยงค์กมล ผู้ก่อตั้งเครือสารสาสน์ ให้สัมภาษณ์รายการหนึ่งจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงนั้น นายพิสุทธิ์ ระบุว่า อาจจะเกิดจากความเข้าใจผิดเนื่องจากเป็นการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ จึงอาจทำให้เสียงไม่ชัดเจน โดยนายพิบูลย์ไม่ได้มีเจตนาอย่างที่พูดออกไป และยืนยันเจตนาที่จะช่วยเหลือและความยุติธรรมกับนักเรียนและผู้ปกครอง พร้อมย้ำว่าทุกอย่างจะคลี่คลายเพียงแต่ขอเวลาในการแก้ไขปัญหา

ด้าน ดร.สุทธิพงศ์ กล่าวว่าขอเวลาให้โรงเรียนสารสาสน์ได้ปฏิรูปโครงสร้าง แนวทางการบริหารใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ซึ่งหลังจากนี้ผู้ปกครองและสื่อมวลชนสามารถติดตามความคืบหน้าการประชุมผู้ปกครองได้ โดยทางโรงเรียนอนุญาตให้มีการเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ได้


ขณะที่ ดร.สยมพร ทองเนื้อดี คณะกรรมการส่วนกลางโรงเรียนสารสาสน์ ในฐานะดูแลรับผิดชอบครูปฐมวัย ระบุว่าตอนนี้ทางโรงเรียนได้นำบุคลากรจากส่วนกลางโรงเรียนสารสาสน์ ที่จบครูด้านปฐมวัยมาสอนแทนครูชุดเก่า รวมถึงได้ปรับแนวทางการเรียนการสอนของชั้นอนุบาล เช่น การเพิ่มกิจกรรมผ่อนคลายให้เด็กในช่วงเช้าให้เด็กมีความสุขมากขึ้น ปรับบุคลากร ปรับสภาพแวดล้อมห้องเรียน โดยอยากฝากถึงผู้ปกครองว่า ทีมส่วนกลางที่เข้ามาแก้ไขปัญหานี้ ตั้งใจปรับปรุงด้านอนุบาลให้ดีขึ้น และยอมรับว่าภาพที่เกิดขึ้นสร้างความตระหนักใจกับทุกฝ่าย แต่ก็ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในกระบวนการการแก้ไขปัญหา โดยผู้ปกครองสามารถสอบถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาได้ที่ ตนเอง, ดร.วริษสนันท์ เดชปานประสงค์ คณะทำงานจากส่วนกลาง และนางวารุณี เผือกเทศ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน

ด้านนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) กล่าวว่า อยากให้มั่นใจ ว่าทุกอย่างจะถูกนำมากางบนโต๊ะและข้อตกลงต่าง ๆ ที่โรงเรียนรับปากกับผู้ปกครอง จากนี้ไปคณะทำงานที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการตั้งขึ้นมา จะติดตามความคืบหน้ารายวัน อยากเห็นการเรียนการสอนกลับสู่ปกติเร็วที่สุด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้