fbpx

ทีมบริหารเครือสารสาสน์ แถลงขอโทษผู้ปกครอง

ศธ.30 ก.ย.-ทีมผู้บริหารเครือโรงเรียนสารสาสน์ แถลงขอโทษที่ทำให้ผู้ปกครองผิดหวัง เสียใจและยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ขอแก้ตัว แต่ขอโอกาสแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด เพื่อระบบการศึกษาที่ดีในอนาคต


ดร.พิสุทธิ์ ยงค์กมล และดร.สุทธิพงศ์ ยงค์กมล ทีมผู้บริหารเครือโรงเรียนสารสาสน์ แถลงเปิดใจกรณีครูทำร้ายนักเรียน ภายหลังประชุมและทำข้อตกลงร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการแล้ว

ดร.พิสุทธิ์ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่ผู้บริหารรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก โดยไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในโรงเรียน ที่ผ่านมาโรงเรียนสารสาสน์ มีแนวทางการทำงานที่ชัดเจนในเรื่องนโยบายการต่อต้านการกลั่นแกล้งในโรงเรียน (Bully)เบื้องต้น ต้องขอโทษผู้ปกครอง และสังคมอีกครั้ง และจะไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบที่เกิดขึ้น


ยืนยันจะแก้ไขปัญหาด้วยความจริงใจอย่างตรงไปตรงมาเสมือนว่าพวกเราเป็นผู้ปกครอง โดยทุกข้อกำหนดที่ตกลงร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการวันนี้จะนำไปปฏิบัติช่วยเหลือแก้ไข และพร้อมรับฟังข้อเสนอเพิ่มเติมจากผู้ปกครอง โดยได้สั่งการให้โรงเรียนในเครือสารสาสน์ทั้งหมด จัดตั้งศูนย์ร้องเรียนที่ห้องธุรการ โดยจะมีการปรับระบบคุณภาพของการบริหารโรงเรียน รวมถึงบุคคลากรให้มีธรรมาภิบาล รวมถึงจะมีการตรวจสุขภาพของครูผู้สอน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

ส่วนกรณีที่นายพิบูลย์ ยงค์กมล ผู้ก่อตั้งเครือสารสาสน์ ให้สัมภาษณ์รายการหนึ่งจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงนั้น นายพิสุทธิ์ ระบุว่า อาจจะเกิดจากความเข้าใจผิดเนื่องจากเป็นการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ จึงอาจทำให้เสียงไม่ชัดเจน โดยนายพิบูลย์ไม่ได้มีเจตนาอย่างที่พูดออกไป และยืนยันเจตนาที่จะช่วยเหลือและความยุติธรรมกับนักเรียนและผู้ปกครอง พร้อมย้ำว่าทุกอย่างจะคลี่คลายเพียงแต่ขอเวลาในการแก้ไขปัญหา

ด้าน ดร.สุทธิพงศ์ กล่าวว่าขอเวลาให้โรงเรียนสารสาสน์ได้ปฏิรูปโครงสร้าง แนวทางการบริหารใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ซึ่งหลังจากนี้ผู้ปกครองและสื่อมวลชนสามารถติดตามความคืบหน้าการประชุมผู้ปกครองได้ โดยทางโรงเรียนอนุญาตให้มีการเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ได้


ขณะที่ ดร.สยมพร ทองเนื้อดี คณะกรรมการส่วนกลางโรงเรียนสารสาสน์ ในฐานะดูแลรับผิดชอบครูปฐมวัย ระบุว่าตอนนี้ทางโรงเรียนได้นำบุคลากรจากส่วนกลางโรงเรียนสารสาสน์ ที่จบครูด้านปฐมวัยมาสอนแทนครูชุดเก่า รวมถึงได้ปรับแนวทางการเรียนการสอนของชั้นอนุบาล เช่น การเพิ่มกิจกรรมผ่อนคลายให้เด็กในช่วงเช้าให้เด็กมีความสุขมากขึ้น ปรับบุคลากร ปรับสภาพแวดล้อมห้องเรียน โดยอยากฝากถึงผู้ปกครองว่า ทีมส่วนกลางที่เข้ามาแก้ไขปัญหานี้ ตั้งใจปรับปรุงด้านอนุบาลให้ดีขึ้น และยอมรับว่าภาพที่เกิดขึ้นสร้างความตระหนักใจกับทุกฝ่าย แต่ก็ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในกระบวนการการแก้ไขปัญหา โดยผู้ปกครองสามารถสอบถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาได้ที่ ตนเอง, ดร.วริษสนันท์ เดชปานประสงค์ คณะทำงานจากส่วนกลาง และนางวารุณี เผือกเทศ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน

ด้านนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) กล่าวว่า อยากให้มั่นใจ ว่าทุกอย่างจะถูกนำมากางบนโต๊ะและข้อตกลงต่าง ๆ ที่โรงเรียนรับปากกับผู้ปกครอง จากนี้ไปคณะทำงานที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการตั้งขึ้นมา จะติดตามความคืบหน้ารายวัน อยากเห็นการเรียนการสอนกลับสู่ปกติเร็วที่สุด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้