ผลตรวจ 14 รายใกล้ชิดแม่ลูกต่างด้าวติดโควิด ไม่พบเชื้อ

พระนครศรีอยุธยา 18 ก.ย.- ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา เปิดผล 2 แม่ลูกต่างด้าวติดโควิด-19 ที่เมืองเมียวดี เผยเดินทางจาก จ.พระนครศรีอยุธยา เรียกผู้ใกล้ชิดตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวน 14 ราย ไม่พบเชื้อ


จากกรณีที่ประเทศพม่าประกาศเคอร์ฟิว “เมียวดี” โดยอ้างพบแม่ลูกเดินทางกลับจากไทยติดเชื้อโควิด ต้นทางที่อยุธยานั้น นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ประสานข้อมูลกับทางฝั่งพม่าแล้วและได้ทำการสอบสวนโรคและไทม์ไลน์ของสองแม่ลูกชาวพม่าแล้ว พบว่ามีการทำงานอยู่ในพื้นหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจริง โดยได้ลาออกจากงานตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน และเดินทางไปยัง อ.แม่สอด จังหวัดตาก ในวันที่ 2 กันยายน พักในห้องเช่าใกล้กับด่านชายแดนแม่สอด ก่อนที่จะเดินทางข้ามแดนไปยังฝั่งพม่า ในวันที่ 3 กันยายน พบมีผู้สัมผัสใกล้ชิดจำนวน 16 ราย เป็นคนงานต่างด้าว 8 ราย คนไทย 8 ราย ได้ทำการตรวจหาเชื้อโรคโควิด 14 ราย และตามตัวมาตรวจเชื้ออีก 2 รายนั้น

ล่าสุด เช้าวันนี้ ได้มีการเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบหาเชื้อ 14 รายเป็นลบทั้งหมดไม่พบเชื้อ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการเพิ่มเติมให้ทางสาธารณสุขจังหวัดขยายการตรวจหาเชื้อจากชั้นใกล้เคียงออกไปอีก เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีเชื้อในกลุ่มใกล้เคียง


ขณะที่สถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเมียนมาที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเต็มพิกัดออกตั้งจุดตรวจและเดินเท้าลาดตระเวนในหมู่บ้านแนวชายแดนทุกหมู่บ้านเพื่อสกัดกั้นกลุ่มขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในหัวเมืองชั้นในอำเภอแม่สอดหรือเข้าไปในจังหวัดข้างเคียง กระทั่งพบชายต้องสงสัยจำนวน 2 คน แอบซุกซ่อนตัวอยู่ในป่าอ้อยในหมู่บ้านแม่ตาวกลาง ห่างแนวชายแดนไทย-พม่า ทั้งสองเป็นชาวจีน อยู่ในสภาพเนื้อตัวเปียกน้ำ ตามลำตัวแขนขามีบาดแผลถูกใบอ้อยบาด ไม่สวมรองเท้าและอยู่ในสภาพหิวโซไม่สามารถสื่อสารเป็นภาษาไทยได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมมอบน้ำดื่มและอาหารช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมส่งตัวไปวัดไข้และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลการตรวจชาวจีนทั้งสองไม่พบเชื้อโควิด-19 จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งสองไปสอบสวนต่อที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก

จากการสอบสวนเบื้องต้น 1 ใน 2 ชาวจีนที่ถูกจับให้การเบื้องต้นว่า ทั้งสองทำงานอยู่ในโรงงานในเขตจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ช่วงนี้จังหวัดเมียวดีมีการประกาศเคอร์ฟิว เจ้าหน้าที่เมียนมาตรวจเข้มงวดมากและตนเองกลัวโรคโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วหลายรัฐเกรงจะไม่ปลอดภัยหากทำงานต่อในเมียนมา จึงคิดจะหลบหนีข้ามแนวชายแดน โดยมีการจ่ายค่านายหน้าเพื่อช่วยชี้จุดว่ายน้ำข้ามมาฝั่งไทย จนสามารถเสี่ยงตายว่ายแม่น้ำเมยที่ไหลเชี่ยวมาขึ้นฝั่งอำเภอแม่สอดในสภาพสะบักสะบอม จากนั้นแอบเดินเท้าไปหลบซ่อนตัวในป่าอ้อยในหมู่บ้านเพื่อรอนายหน้าคนไทยมารับแต่ก็มาถูกจับกุมตัวและมีรู้ตัวภายหลังว่าถูกนายหน้าหลอกไม่สามารถหนีต่อเข้าหัวเมืองชั้นในได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน