นายกฯ ลงพื้นที่ทะเลน้อย รับปากแก้ปัญหาตื้นเขิน-กำจัดวัชพืช

พัทลุง 17 ก.พ.- “นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ทะเลน้อย พัทลุง ป้อนหญ้าควายทะเล รับปากแก้ปัญหาตื้นเขิน-กำจัดวัชพืช ลั่นทำให้หมดทุกพื้นที่ไม่มีเลือก ปลื้มชาวบ้านอวยผลงาน “ทักษิณ” สร้างถนน-สะพานเชื่อมพัทลุง-สงขลา อ้อน แหลงใต้ไม่เป็นยังรักอยู่ไหม ดีใจได้ฟังปัญหาจากปาก ปชช. สัญญาจะกลับไปทำการบ้านเพิ่ม บอกถ้าคนไทยรวย รัฐบาลก็เข้มแข็ง ขณะที่ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจ ตะโกน “นายกฯ สู้สู้”


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2568 ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี และสงขลา) ระหว่างวันที่17-18 กุมภาพันธ์

โดยนายกรัฐมนตรี เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานตรัง ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง มีเด็กนักเรียนและครูอาจารย์ จากโรงเรียนมิตรภาพที่ 31 (วัดทุ่งหวัง) มารอต้อนรับ และมอบไม้แกะสลักรูปปลาพะยูน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดตรัง ให้กับนายกรัฐมนตรีเป็นที่ระลึก โดยนายกรัฐมนตรีได้ทำมือเป็นสัญลักษณ์ “ไอ เลิฟ ยู” ให้กับเด็กนักเรียนด้วย


จากนั้นนายกรัฐมนตรี เดินทางมาจุดแรกติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ที่บริเวณจุดชมวิวทะเลน้อย ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทองรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมลงพื้นที่ และมีนายถนอมพงศ์ หลีกภัย สส.เขต 1 จ.ตรัง นายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร สส.เขต 2 จ.พัทลุง พรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมต้อนรับนายกรัฐมนตรีด้วย

เมื่อมาถึง นายกรัฐมนตรีได้ป้อนหญ้าให้กับควายน้ำที่ถูกเลี้ยงอยู่ในพื้นที่ทะเลน้อย ระหว่างป้อนหญ้า นายกรัฐมนตรีได้สอบถามชื่อของควายที่ป้อนอาหารทั้ง 3 ตัว คือ “สุชาติ-บัวตอง-ทองกวาว” พร้อมชมว่า “น่ารัก”

ขณะที่ตัวแทนผู้เลี้ยงควายได้ขอให้นายกรัฐมนตรี ช่วยผลักดันเรื่องของผลิตภัณฑ์นมควายทะเลน้อย เนื่องจากเกษตรกรมีการผลิตอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาผลักดันและมีศูนย์รับซื้อ โดยนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเนื่องจากในต่างประเทศนมควายก็เป็นที่นิยมอยู่แล้ว


ขณะเดียวกันกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ยังได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีแก้ปัญหาของทะเลน้อยที่ตื้นเขิน 2 แนวทาง โดยนายกฯ ได้รับข้อเสนอและเห็นด้วยกับ 2 แนวทาง คือ การนำวัชพืชที่อยู่ในทะเลน้อยขึ้นมาทำปุ๋ยขึ้นมาทำปุ๋ย เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้และเห็นด้วย ขยายการนำวัชพืชมาถมเป็นการขยายพื้นที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ เกษตรกร กล่าวด้วยว่า หวังว่าจะเห็นความสำเร็จในรัฐบาลของนายกฯ แพทองธาร เพราะในอดีตเมื่อปี 2547 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยสร้างถนนและสะพานเอกชัยที่เชื่อมระหว่างพัทลุงกับสงขลาสำเร็จมาแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี ถึงกับอุทานว่า “โอ้โห 20 ปีมาแล้ว” และกล่าวว่าพื้นที่ไหนมีความพร้อมในการแก้ปัญหา ก็ทำให้หมดทุกพื้นที่ไม่มีการเลือก

ขณะเดียวกันยังมีประชาชนถือป้าย พร้อมยื่นหนังสือขอให้นายกรัฐมนตรีอนุมัติสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา เพื่อความสะดวกสบายและลดระยะเวลาในการเดินทาง

นอกจากนี้ ยังมีประชาชนมาถือป้าย ภาพนายทักษิณ ลงพื้นที่ พร้อมข้อความระบุว่า “ภาพแห่งความประทับใจที่ไม่ลืม นายทักษิณลงพื้นที่เปิดงานแข่งโพนเมื่อปี 2546 และจุดสร้างสะพานต่างระดับทะเลน้อย” และป้ายข้อความว่า “คลองไทยทักษิณคิดปี 48 อุ๊งอิ๊ง สานต่อ ปี 68” พร้อมตะโกนให้กำลังใจ “นายกด้วย สู้สู้ ”

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมการสาธิตผลิตภัณฑ์โอทอปชุมชนของดีในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ก่อนที่จะเดินประชาชนที่มารอต้อนรับ มีทั้งมอบดอกไม้ พวงมาลัยและถ่ายรูปเซลฟี่ร่วมกับนายกฯ พร้อมรับชมการแสดงมโนราห์จากเยาวชนโรงเรียนบ้านท่าแค อำเภอเมืองพัทลุง (วันครู 2500) เพื่อเป็นการต้อนรับนายกรัฐมนตรีในการที่จังหวัดพัทลุง และระหว่างชมวีดีทัศน์การบริหารจัดการน้ำทะเลสาบสงขลา (ทะเลน้อย) ซึ่งได้มีการพูดถึงการสร้างสะพานที่เชื่อมระหว่างจังหวัดพัทลุงกับสงขลา โดยชื่นชมว่าเป็นการสร้างในสมัย รัฐบาลนายทักษิณชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี โดยอนุมัติงบประมาณ 700 ล้านบาท ทำให้ประชาชนที่มาร่วมงานถึงกับปรบมือ ขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ถึงกับยิ้มและยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพบนวีดีทัศน์ที่มีภาพของนายทักษิณประกอบด้วย

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวทักทายกับประชาชนที่มารอต้อนรับ พร้อมกับกล่าวว่า “แหลงใต้ไม่เป็นยังรักอยู่ไหมเนี่ย” และกล่าวต่อว่าขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น วันนี้คณะรัฐมนตรีหลายท่านกระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆได้รวบรวมกันทำงาน โดยพรุ่งนี้(18 ก.พ.) จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมกัน ขอบคุณประชาชนสำหรับการต้อนรับ ไม่ต้องห่วงทางราชการคณะรัฐมนตรีทั้งหมดได้ทำการบ้านเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคที่ชาวพัทลุงได้เจอ และดีใจที่ได้มาฟังจากผู้ว่าราชการจังหวัด และหลายท่านได้นำเสนอปัญหาจริงๆของจังหวัด เพราะตนพูดอยู่เสมอว่าคนในพื้นที่รู้ปัญหาของตัวเองดีที่สุด พร้อมกับถามประชาชนว่าจริงหรือไม่ จากนั้นประชาชนได้ตอบว่าจริงและตบมือให้กับนายกรัฐมนตรี และเมื่อเดินทางมาก็จะรู้ว่ามีอะไรบ้าง และอะไรที่สามารถเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนเพราะความจริงถ้าเกิดประชาชนรวย รัฐบาลก็แข็งแรง ประเทศแข็งแรงไปด้วย ดังนั้นความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นส่วนสำคัญที่สุดของรัฐบาล ย้ำว่าดีใจที่ได้มาฟังด้วยตัวเอง

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าว ขอบคุณที่ยังนึกถึงอดีตนายกฯทักษิณ ที่เคยมาในพื้นที่และสร้างประโยชน์เอาไว้ ต้องขอบคุณรัฐบาลในสมัยของนายทักษิณ ที่มีส่วนร่วม และมีส่วนผลักดัน ตนเองวันนี้ที่ได้มาเจอกับประชาชนก็เต็มที่ กลับไปจะทำการบ้านเพิ่มเติมอย่างแน่นอน และวันนี้เรามีรองนายกฯพีระพันธุ์ ที่ ดูแลและ รับทราบปัญหาดี เมื่อได้ฟังว่าอะไรเกิดขึ้นบ้างและจะแก้ไขอย่างไร รัฐบาลจะมองภาพใหญ่ ไม่อยากแก้ปัญหาแค่ 1 ปีและปัญหาก็เกิดขึ้นอีกแบบนี้ไม่อยากทำแต่อยากทำให้ปัญหามันหมดไป ฉะนั้นเต็มที่ และขออย่างเดียวให้ประชาชนรักษาสุขภาพ กินอิ่มนอนหลับ เป็นกำลังใจให้กับรัฐบาล และรัฐบาลจะช่วยประชาชนอย่างเต็มที่แน่นอน ขอให้เป็นกำลังใจให้กันและกัน โดยรัฐมนตรีทุกคนที่มาในวันนี้ให้ความสำคัญกับพัทลุง พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่าขอให้มีกำลังใจในการสู้ทำมาหากิน เข้มแข็งเราจะช่วยกันต่อไป จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปปฎิบัติภารกิจต่อที่บริษัทไทยยูเนียนซีฟู้ด อ.สิงหนคร จ.สงขลา โดยระหว่างทางได้แวะชมควายทะเลกลางสะพานเอกชัย เชื่อมพัทลุง – สงขลา ที่สร้างขึ้นในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร ก่อนที่จะเดินทางต่อไปที่

สำหรับภารกิจการลงพื้นที่ นายกรัฐมนตรีใช้รถยนต์ Lexus ทะเบียน 5ขส 45 กรุงเทพมหานคร.-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ.สั่งสอบกัมพูชานำ 22 วรรณกรรมไทย สอดไส้ขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก

15 ก.ค. – ปลัดวัฒนธรรม สั่งตรวจสอบแล้ว หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์อ้างว่ามีรายชื่อวรรณกรรมไทยหลายรายการถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับองค์การยูเนสโกโดยประเทศอื่นๆ นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชนบางแห่ง โดยอ้างว่ามีรายชื่อวรรณกรรมไทยหลายรายการถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับองค์การยูเนสโก โดยประเทศอื่นๆ นั้น กระทรวงได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และได้มอบหมายให้อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประสานความร่วมมือกับกรมศิลปากร กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว เนื่องจากกระบวนการพิจารณาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรองข้อมูลอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ กระทรวงวัฒนธรรม ขอยืนยันว่าหากได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนแล้วจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบในโอกาสต่อไป เขมรเคลมฉก 22 วรรณกรรมไทยสอดไส้ขึ้นทะเบียนยูเนสโกแล้วก่อนหน้านี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “JanJao K. Sisprakaew” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่เขมรนำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย รายชื่อวรรณกรรมเหล่านี้ถูกแต่งขึ้นโดยชาวไทย แต่ถูกเขมรนำไปขึ้นทะเบียนต่อ Unesco ในหัวข้อ “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ Cultural heritage of Cambodia” วรรณกรรมไทยเหล่านี้ถูกเขมรเคลมเป็นของตนเองเพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodiaโดยเขมรอ้างว่ารายชื่อวรรณกรรมเหล่านี้ได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522-2545 จากละครเรื่อง […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ […]

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]