ทำเนียบรัฐบาล 7 มิ.ย.- “เศรษฐา” เป็นประธานประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง รับ ยังไม่คุ้นเคยกัน อยากรู้จักกันมากขึ้น เพื่อผลักดันนโยบายรัฐบาล
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง หรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2567 ณ ตึกภักดีบดินทร์
นายเศรษฐา กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้มาพบปะกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเป็นครั้งแรก ซึ่งจริง ๆ แล้วหลาย ๆ ท่านก็ได้พบปะกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ภายในงานต่าง ๆ ซึ่งก็อยากรู้จักกันมากขึ้น และอยากให้จัดการประชุมลักษณะนี้บ่อยขึ้น เพื่อให้ทุกท่านได้มาพบปะกันในเวทีนี้ หรือมีการติดต่อพูดคุยสานต่อนโยบายต่าง ๆ ที่ทางรัฐบาลได้ทำมา ที่มีการแถลงต่อรัฐสภาไปเมื่อครั้งรับตำแหน่ง
นายเศรษฐา กล่าวว่าตนเองเชื่อว่าที่ผ่านมา ทุกท่านทราบถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมเป็นอย่างดี และจุดมุ่งหมายที่เราอยากให้เป็นการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ จึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ซึ่งไม่ใช่กระทรวงเศรษฐกิจอย่างเดียว กระทรวงอื่นก็มีส่วนร่วมด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้น อยากให้มาพูดคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค การปราบปรามยาเสพติด มีหลายหน่วยงานเข้ามามีส่วนร่วม และช่วยกันทำงานอย่างบูรณาการ
นายกเศรษฐา กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ได้ทำมาจนเป็นที่ประจักษ์กันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเชิญชวนนักลงทุนจากต่างประเทศมาลงทุนในไทย การเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การลดหนี้ครัวเรือน การบริหารจัดการเรื่องหนี้นอกระบบ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่พวกท่านทราบ และเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว และเชื่อว่าอย่างหนึ่งที่เราสามารถทำได้ดีคือได้กำหนด KPI ที่ชัดเจน ว่าจะทำกันอย่างไร เชื่อว่าหลายท่านเป็นผู้ที่มีความสามารถอยู่ในแวดวงราชการมานาน จึงอยากรับฟังข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะเพื่อหาช่องทางการพูดคุยกันนอกเหนือจากวงนี้ ว่ามีไอเดียอะไร ซึ่งจริง ๆ อาจจะเป็นความผิดของตนเองที่ยังเข้าไม่ถึงพวกท่านทุกคน แต่หากมีโอกาส หรือมีช่องทางที่เหมาะสม ก็อยากให้เสนอเรื่องเข้ามา เพื่อที่จะได้มีการพูดคุยกับทีมงานของเรา จะได้ทำงานร่วมกันช่วยเหลือประชาชนได้เป็นอย่างดี
นายเศรษฐา กล่าวทิ้งท้ายว่า ปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ตามแนวทาง 10 ข้อ ที่รัฐบาลวางไว้ พร้อมขอให้ทุกคน ทำงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้เป็นที่ประจักษ์ ว่าเราทำอย่างเต็มที่. 317.-สำนักข่าวไทย