สิงคโปร์แอร์ไลน์คุมเข้มกฎรัดเข็มขัดนิรภัย

สิงคโปร์ 24 พ.ค. – สิงคโปร์แอร์ไลน์เพิ่มความเข้มงวดเกี่ยวกับกฎระเบียบการบริการในห้องโดยสาร เมื่อเครื่องบินเผชิญสภาพอากาศปั่นป่วน หลังจากผู้โดยสารรายหนึ่งเสียชีวิต


สิงคโปร์แอร์ไลน์ ระบุในวันนี้ (24 พ.ค.) ว่า ทางสายการบินจะใช้กฎระเบียบที่ระมัดระวังมากขึ้นในการจัดการกับปัญหาสภาพอากาศปั่นป่วน หลังเครื่องบินเที่ยวที่ SQ321 ตกหลุมอากาศแบบกะทันหันเมื่อวันอังคารที่ 21 พ.ค. ทำให้ต้องร่อนลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิในกรุงเทพฯ โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผู้โดยสารชายรายหนึ่งเสียชีวิต และผู้โดยสารอีกหลายสิบคนยังต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บรุนแรงในโรงพยาบาลของไทย เช่น อาการบาดเจ็บบริเวณเส้นประสาทไขสันหลังและศีรษะ

สิงคโปร์แอร์ไลน์ระบุว่า สายการบินจะระงับบริการอาหารบนเครื่องบินหากสัญญาณเตือนรัดเข็มขัดนิรภัยถูกเปิด นอกเหนือไปจากการระงับการให้บริการเครื่องดื่มชนิดร้อน ส่วนลูกเรือจะต้องกลับไปนั่งประจำที่พร้อมรัดเข็มขัดนิรภัย ขณะเดียวกัน สิงคโปร์แอร์ไลน์ระบุว่าจะเดินหน้าทบทวนขั้นตอนการให้บริการของทางสายการบินต่อไป โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกเรือและผู้โดยสารเป็นอันดับแรก


สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กฎระเบียบใหม่ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ไม่ได้บังคับให้ผู้โดยสารทุกคนต้องรัดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทางโดยไม่คำนึงถึงสภาพการบินในขณะนั้น ซึ่งปกติแล้วสายการบินต่าง ๆ จะเพียงแค่แนะนำให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทาง และสั่งให้นั่งประจำที่พร้อมรัดเข็มขัดนิรภัยเฉพาะช่วงที่สภาพอากาศไม่คงที่เท่านั้น

รายงานระบุว่า อาการบาดเจ็บที่ผู้โดยสารบนเครื่องบินเที่ยวที่ SQ321 ได้รับนั้นได้เน้นย้ำให้เห็นถึงผลกระทบที่ผู้โดยสารที่ไม่รัดเข็มขัดนิรภัยได้รับเมื่อเครื่องบินตกหลุมอากาศแบบกะทันหัน โดยผู้โดยสารที่ไม่รัดเข็มขัดนิรภัยถูกเหวี่ยงเข้าใส่เพดานห้องโดยสาร ขณะที่สิ่งของส่วนตัวและอุปกรณ์เกี่ยวกับการให้บริการอาหารเช้าบนเครื่องบินตกกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ด้านโรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ ระบุเมื่อวันพฤหัสบดี (23 พ.ค.) ว่า ผู้โดยสารประมาณ 22 ราย กำลังรักษาอาการบาดเจ็บบริเวณเส้นประสาทไขสันหลัง ส่วนผู้โดยสารอีก 6 ราย บาดเจ็บบริเวณกระโหลกและสมอง ขณะที่ผู้โดยสาร 20 ราย อยู่ในหออภิบาลผู้ป่วยหนัก (ICU) และ 17 ราย ต้องเข้ารับการผ่าตัด. -513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา