ศูนย์ฯ สิริกิติ์ 8 พ.ค. – คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) แนะรัฐบาล-ธปท.ร่วมหารือหาแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศร่วมกัน
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งของรัฐบาลกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเรื่องนโยบายดอกเบี้ยว่า อยากให้ทุกภาคส่วนร่วมหารือ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ เพราะจากตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจทั้งโลกและไทยที่ลดลง ถือเป็นเรื่องเปราะบาง จึงอยากให้ร่วมกันแก้ปัญหา โดยเอาประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง เพื่อให้ปัญหาที่มีอยู่คลี่คลาย ซึ่งหากยังมีความเห็นที่ต่างกันก็ไม่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้
นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูนโยบายการเงิน ซึ่งมีอิสระในการทำงานจริงๆ แล้วการออกแบบให้มีความเป็นอิสระ จะช่วยเรื่องเสถียรภาพเศรษฐกิจประเทศไทย ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นการแสดงบทบาทหน้าที่ของแต่ละฝ่าย ส่วนประเด็นความขัดแย้งของรัฐบาลกับ ธปท.ในเรื่องนโยบายดอกเบี้ย ที่รัฐบาลต้องการให้ ธปท.ปรับลดลงนั้น ในการพิจารณาลดดอกเบี้ยอ้างอิงทาง ธปท. มีคณะกรรมการ กนง.ที่เป็นคนตัดสินใจดูแลอยู่ ซึ่งใน กนง.ก็มีหลายภาคส่วน การพิจารณาก็ดูจากสิ่งแวดล้อม รวมถึงใช้ประสบการณ์ของผู้ร่วมพิจารณาด้วย ไม่ใช่ ธปท.เป็นผู้พิจารณาเพียงคนเดียว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นการแก้ไข พ.ร.บ.แบงก์ชาติ เพื่อลดอิสระธนาคารกลาง นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้ยังไม่มีใครบอกว่ามีความขัดแย้ง ส่วนการแก้ไข พ.ร.บ.แบงก์ชาติ นายกรัฐมนตรีก็บอกว่า ยังไม่ได้คิดแก้ไข พ.ร.บ.แบงก์ชาติ กกร.เป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับและมีความเป็นกลาง จึงจะขอออกความเห็นเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ส่วนการเมืองไม่ขอยุ่ง เพราะต่างคนต่างมีหน้าที่ของตนเอง ตามหลักสากลแบงก์ชาติมีกรอบในการทำงานตาม ซึ่งรัฐก็มีกรอบบริหารประเทศตามเป้า ซึ่งตอนนี้มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว ก็น่าจะเปิดอกหารือกัน สิ่งไหนที่ยอมกันได้ก็ยอมกันบ้าง ถอยคนละก้าว เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะท้ายที่สุดทุกคนก็หวังผลประโยชน์ของประเทศชาติด้วยกันทั้งสิ้น.-517-สำนักข่าวไทย