สงขลา 31 มี.ค.- “บิ๊กโจ๊ก” กลับบ้านเกิดเป็นประธานงานคืนสู่เหย้าโรงเรียนวิเชียรชม ส่วนทั้ง 2 หมายเรียกนั้น ให้ว่าไปตามกฎหมาย ย้ำ มั่นใจกระบวนการยุติธรรม
เมื่อคืนนี้ ที่โรงเรียนวิเชียรชม เขตเทศบาลนครสงขลา มีการจัดงานเพชรคืนถิ่น ครั้งที่ 1 กิจกรรม “รวมใจเป็นหนึ่ง คนใต้ไม่ทิ้งกันให้กำลังใจ” โดยมี พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าสมัยประถมเดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิด และพบปะกับเพื่อน พี่น้อง ชาวสงขลาศิษย์เก่าโรงเรียนวิเชียรชม และสมาชิกสมาคมชาวปักษ์ใต้
ภายในงานมีการจัดเลี้ยงอาหาร ดนตรีการแสดงบนเวี ซึ่งหลังจาก “บิ๊กโจ๊ก” ทำพิธีเปิดเสร็จ ได้มีน้องๆ หนูๆ เข้าแถวและ ยื่นดอกกุหลาบให้ “บิ๊กโจ๊ก” เพื่อเป็นกำลังใจ
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวเปิดใจว่า คนใต้ยังไงก็ไม่ทิ้งกัน ตนไม่เคยสร้างบ้านไว้ที่ไหน เพราะเคยพูดกับภรรยาว่าถ้าจะสร้างบ้าน จะไม่มีสร้างบ้านไว้ที่อื่น จะต้องกลับมาอยู่สงขลาและมาพัฒนาบ้านเกิด เมื่อมีโอกาสว่างก็จะกลับสงขลา เหมือนที่มาวันนี้ พอจะมีเวลาว่างก็ได้กลับมาเยี่ยมเยียนเพื่อนฝูง สมัยเรียน และมาเยี่ยมโรงเรียนเก่า ที่เคยศึกษาในชั้นประถม
“บิ๊กโจ๊ก” ยังกล่าวอีกว่า คนใต้ยังไงก็ไม่ทิ้งกัน ถ้าใครได้รับความเดือดร้อน ก็สามารถติดต่อตนได้ตลอด หรือติดต่อไปทางสมาคมชาวปักษ์ใต้ หรือลูกหลานที่ไปเรียนกรุงเทพฯ แล้วไม่มีที่อยู่ ต่อไปที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ที่กรุงเทพฯ ก็จะทำเป็นที่อยู่ให้กับลูกหลานชาวปักษ์ใต้ ได้ไปอยู่ระหว่างเรียนหรือศึกษา
สำหรับบรรยากาศภายในงานมีพี่น้องทั้งศิษย์เก่าศิษย์ปัจจุบันรวมถึงพี่น้องชาวปักษ์ใต้มาร่วมให้กำลังใจ “บิ๊กโจ๊ก” กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกคนเชื่อมั่นว่า พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เป็นคนดีทำงานเพื่อบ้านเมืองมาตลอด
“บิ๊กโจ๊ก” ปัดตอบ กรณี “ทนายตั้ม” แฉ
สำหรับประเด็นหมายเรียก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ขอไม่ตอบให้ไปถามทนาย ผู้สื่อข่าวยังได้ถามว่า มีอะไรฝากไปถึงนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม หรือไม่ “บิ๊กโจ๊ก” ได้ตอบว่า เรื่องนี้ไม่รู้เรื่องเลย และเป็นเรื่องของเขาเอง ส่วนหมายเรียกทั้งสองหมายนั้น พลตำรวจเอกสุเชษฐ์กล่าวว่า ให้ว่าไปตามกฎหมาย ตนมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม ก็ให้กระบวนการยุติธรรมทำงาน ส่วนภารกิจเกาะหลีเป๊ะนั้น จะมีการประชุมคณะทำงานในวันที่ 5 เมษายนนี้ วันจันทร์ที่ 1 เมษายนจะมีการประชุมแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนก่อน.-สำนักข่าวไทย