“บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” แถลงเคลียร์ปมขัดแย้ง หลังนายกฯ เรียกพบเช้านี้

20 มี.ค. – ผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ และ “บิ๊กโจ๊ก” แถลงข่าวร่วมกัน หลังนายกฯ เรียกไปพบที่ทำเนียบฯ เช้านี้ เคลียร์ปัญหาขัดแย้งใน สตช.


พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า วันนี้ เชิญสื่อมวลชนมาเพื่อแถลงให้ข้อมูล ให้ข่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ในฐานะที่ตนเป็น ผบ.ตร. กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ผ่านมาภาพที่ออกสู่ประชาชน อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องในคดีที่เกี่ยวเนื่องกันทั้งหมดกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และนายตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีเว็บพนันออนไลน์ โดยตนเป็นคนคิดและตัดสินใจโทรศัพท์ไปหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อชวนไปพบนายกรัฐมนตรีในช่วงเช้าวันนี้ จากนั้นได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ให้รวมสำนวนคดีเว็บพนันทั้ง สน.เตาปูน และ สน.ทุ่งมหาเมฆ ไปให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ เพื่อความความยุติธรรม และไม่เกิดภาพของความขัดแย้งขึ้นอีก

ผบ.ตร. ย้ำว่า ที่ผ่านมาได้คุยกับพลเอกสุรเชษฐ์ มาตลอด ถ้าไม่เจอก็โทรคุย ภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่อยากให้ถูกนำไปมองว่าเป็นความขัดแย้งของ 2 คน ซึ่งเกิดจากสื่อโซเชียลมีเดียทั้งสิ้น ที่พยายามปั่นให้เกิดความขัดแย้งกัน โดยหลังจากนี้หากเกิดภาพความขัดแย้งขึ้นอีกให้เข้าใจว่าเกิดจากโซเชียลมีเดีย ไม่ได้เกิดจากตนทั้งสองคน


พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เคยคิดเตะสกัดขา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น ทั้งนี้ ยอมรับว่า เครียดกับภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เพราะมีปัญหาหลายอย่างเข้ามาแต่ก็พยายามประคองสถานการณ์ โดยตนเหลือเวลาราชการอีกแค่ 194 วัน เป็นการนับถอยหลังที่อยากทำทุกวันให้ดีที่สุด โดยฟางเส้นสุดท้ายที่ตัดสินใจยุติปัญหา คือ การโทรศัพท์ไปหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และพาไปพบนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม ผบ.ตร. ย้ำในช่วงการแถลงข่าวตอนท้ายว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังมีสิทธิ์ในแคนดิเดต ผบ.ตร. คนใหม่ ที่จะแต่งตั้งช่วงปลายปีนี้ ส่วนเส้นเงินที่ทีมทนาย “บิ๊กโจ๊ก” แถลงว่า เส้นเงินวิ่งถึงนายตำรวจยศสูงอักษรย่อ “ต.” ภรรยา พี่สาวและพี่ชาย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้มีการสั่งให้ตรวจสอบทางลับแล้ว

ด้าน พล.ต.อสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้พาตนไปพบกับท่านนายกฯ โดย ผบ.ตร. มีแนวคิดที่จะยุติความขัดแย้งในองค์กรตำรวจ วันนี้ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ ตั้งแต่รอง ผบ.ตร. ถึงชั้นประทวนทุกคนมีผู้บังคับบัญชาคนเดียวคือ ผบ.ตร. วันนี้ท่านนายกรัฐมนตรี ผบ.ตร. และตนเอง มีแนวคิดเดียวกัน คือเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน


ส่วนหมายจับ หมายเรียกก่อนหน้านี้ จะเป็นกระบวนการของ ป.ป.ช. ดำเนินการ ซึ่งจะออกหมายเรียก หรือหมายจับ ก็เป็นเรื่องของ ป.ป.ช. ซึ่งตนได้อธิบายในส่วนของกระบวนการทางกฎหมายให้เข้าใจ ทั้งนี้ “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำว่า จะทำงานช่วย ผบ.ตร. ส่วนที่ ผบ.ตร. แถลงวันนี้เพื่อให้สังคมเกิดความเชื่อมั่นว่าจะไม่มีความขัดแย้งในองกรตำรวจขึ้นอีก

กรณี ตำรวจ สน.เตาปูน ออกหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” ไปรับทราบข้อกล่าวหา ในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลักกฎหมาย ป.วิอาญา กรณี สน.เตาปูน ออกหมายเรียก ให้ตนไปรับทราบข้อหาคดีเว็บพนัน bnk มาสเตอร์ ปัจจุบันตนยังถือว่าไม่ได้รับหมาย เพราะช่วงส่งหมายตนอยู่เชียงใหม่ กระบวนการรับหมายจึงยังไม่เริ่มขึ้น โดยทุกคดีที่เกี่ยวเนื่องกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจะต้องส่งไป ป.ป.ช. โดย ผบ.ตร. ได้พูดชัดเจนแล้ว การเปิดแถลงข่าววันนี้ จึงถือเป็นสัญญานแรกที่จะคืนความสุข ความสามัคคีในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“บิ๊กโจ๊ก” ระบุว่า จากนี้ ตนจะขอกินข้าวกลางวันกับ ผบ.ตร. ทุกวันจันทร์ พุธ และ ศุกร์ ไม่ว่า ผบ.ตร. อยู่ที่ไหน ก็จะขอไปกินข้าวด้วย โดยต้องเสียสละเรื่องราวในอดีต ใครมีคดีก็ต้องไปแก้ข้อกล่าวหา ทุกคนต้องทำงานเต็มที่ วันนี้ถือว่าเป็นการ Set Zero ใหม่แล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” กล่าวว่า จะไม่มีการเอาคืนกับพนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนคดีตนเอง เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกนายกรัฐมนตรีตำหนิ และสังคมมองว่าตนก็ยังเป็นคนเดิม ส่วนตัวเหลืออายุราชการ 7 ปี วันนี้ทุกอย่างจึงต้องให้อภัย เพราะการเป็นผู้บังคับบัญชาต้องรู้จักเสียสละและให้อภัย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จะมีการถอนฟ้องคดีตำรวจที่เกียวข้องทั้งหมด เช่น คดีแจ้งความเอาผิดตำรวจชุดบุกค้นกุมบ้านพักกว่า 200 นาย ซึ่งมีนายตำรวจยศพลตำรวจเอก ถูกแจ้งเอาผิดด้วย 2 นาย และคดีฟ้องหมิ่นประมาท พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ส่วนกรณี พล.ต.ต.นำเกียรติ แถลงเส้นเงิน bnk Master ว่ามี ภรรยา, พี่สาว และคนใกล้ชิดนายตำรวจยศสูง จะต้องมีการตรวจสอบวินัย อีกทั้งกรณีนี้ ยังเป็นแค่การพูด ไม่มีตัวเอง ส่วนลูกน้อง 8 นาย ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีเว็บพนันมินนี่ และถูก ผบ.ตร. สั่งมาช่วยราชการที่ ศปก.ตร. จะต้องช่วยราชการต่อไป ทั้งนี้ย้ำว่านั่งแถลงวันนี้ ไม่ใช่ สตช. การละคร ไม่ใช่อีเวนต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากแถลงข่าว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้แสดงความเคารพ โดยการยกมือไหว้และโค้งคำนับ และยืนชิดกันเพื่อให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ และมีจังหวะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เอื้อมมือมาแตะในลักษณะประคองไหล่ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ด้วย เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ฟื้นตัวขึ้นใหม่

ทั้งนี้ ในระหว่างแถลงข่าว สื่อมวลชนยังขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล สบตากันเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ว่าได้คืนดีกันแล้วจริงๆ ทั้งนี้ ยังกล่าวถึงกองเชียร์ของทั้งสองฝ่ายว่าให้ยุติและร่วมกันทำงานเพื่อประชาชน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง