พบโครงกระดูกอดีตครูในบ้านย่าน จ.นนทบุรี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 1 ปี

นนทบุรี 13 มี.ค. – พบศพอดีตครูสภาพเหลือแต่โครงกระดูก คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี น้องชายบอกว่ามีปากเสียงกันจึงไม่ได้ติดต่อ ก่อนตัดสินใจมาหาพบว่ากลายเป็นศพแล้ว


ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบบ้านภายในซอยสามัคคี 50 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ต้นไม้สูงปกคลุม มีรถเก๋ง 2 คัน จอดอยู่ สภาพฝุ่นเกาะเหมือนไม่ได้ใช้งานมานาน

ส่วนภายในบ้านพบโครงกระดูกของอดีตครูอายุ 76 ปี อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ อยู่กลางบ้าน ท่ามกลางกองสมุด หนังสือ และเสื้อผ้าจำนวนมาก จนบ้านแทบไม่มีทางเดิน สภาพศพแห้งเหลือแต่โครงกระดูก แต่ภายในบ้านยังเปิดเครื่องปรับอากาศทิ้งไว้ แพทย์ตรวจสอบเบื้องต้นคาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ปี


น้องชายผู้เสียชีวิต อายุ 71 ปี กล่าวว่า เจอพี่สาวครั้งสุดท้ายเดือนมกราคม 2566 ปกติเขาจะมีหน้าที่มานำรถของพี่สาวไปต่อภาษี ตรวจสภาพเป็นประจำทุกปี แต่ก่อนหน้านี้เกิดขัดใจกัน เพราะตนบอกพี่สาวว่าไม่ต้องไปต่อ เพราะทำไปก็ไม่ได้ใช้ แต่พี่สาวบอกจะเก็บไว้ให้สามีใช้ หลังจากนั้นตนไม่ได้พูดคุยกับพี่สาวอีก

ที่ผ่านมามีการส่งไลน์ไปทักสวัสดีทุกวันเป็นประจำ แต่พี่สาวไม่อ่านเลย โทรไปหาก็ไม่รับ กระทั่งครบ 1 ปี รู้สึกว่าผิดปกติที่ไม่สามารถติดต่อกันได้เลย จึงตัดสินใจเดินทางมาหา เมื่อมาถึงบ้านล็อก จึงให้ช่างไขกุญแจเปิดเข้าไป พบว่าพี่สาวเป็นศพ เหลือแต่โครงกระดูกแล้ว

ที่รู้สึกแปลกอีกเรื่องคือ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 เขาให้เพื่อนเช็กทะเบียนรถ ปรากฏว่าชื่อของพี่เขย มีการแจ้งตายไปแล้วตั้งแต่ปี 2553 จึงไม่เข้าใจว่าพี่สาวคิดอะไรถึงบอกให้เก็บรถไว้ให้พี่เขยใช้


สอบถามจากเพื่อนบ้าน ให้ข้อมูลว่าเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2566 ยังเห็นผู้หญิงสูงวัยออกมายืนข้างนอกบ้าน โดยมีชายคาดว่าเป็นคนงานมาตัดกิ่งไม้หน้าบ้าน แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นอดีตครูหรือไม่ ขณะที่เพื่อนอีกคนหนึ่งบอกว่า 4-5 เดือนที่แล้วเคยเห็นอดีตครูลงมาจากแท็กซี่ช่วง 4 ทุ่ม ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป ปกติแล้วผู้เสียชีวิตเป็นคนไม่พูดคุยกับใคร ค่อนข้างเก็บตัวเงียบ

ตำรวจได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุ พร้อมกับสอบถามญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งยืนยันว่าติดต่อไม่ได้มาประมาณ 1 ปี และไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ก่อนส่งโครงกระดูกให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย