BIG STORY : เร่งล่าฆ่าโหดหนุ่มต่างชาติ ลากศพทิ้งร้านอาหารร้างข้างสุวรรณภูมิ

สมุทรปราการ 25 ก.พ. –เร่งหาเบาะแสคนร้ายฆ่าโหดหนุ่มต่างชาติ ลากศพทิ้งห้องครัวร้านอาหารเก่า ข้างสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะนี้ได้เบาะแสทะเบียนรถแล้ว ด้านช่างสักพัทยา ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ ตำรวจมั่นใจปิดคดีนี้ได้ภายใน 3-5 วัน


ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ฝ่ายสืบสวน แพทย์เวร และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าตรวจสอบบริเวณห้องครัวของร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งปิดกิจการไปแล้ว ตั้งอยู่ริมถนนสุวรรณภูมิสาย 4 ข้างสนามบินสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งพบชายเสียชีวิตปริศนา

จากการตรวจสอบสภาพศพ สวมเสื้อยีดสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ สวมถุงเท้า พบเงินติดตัว 3,100 บาท ที่ใบหน้ามีคราบเลือด ด้านหลังร้าน มีรอยเลือดเป็นทางยาว ในลักษณะมีการลากศพเข้ามาจากด้านหลังมาไว้บริเวณห้องครัว นอกจากนี้ยังพบบาดแผลกระสุนปืนไม่ทราบขนาด ยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด มีร่องรอยกระสุนเข้าออก 3 รู สันนิษฐานเบื้องต้นอาจเป็นชาวต่างชาติแถบเอเชีย ผิวขาว เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง ส่วนผู้ก่อเหตุยังไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มใด แต่คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 คน


ขณะที่นายดิรก อายุ 27 ปี พนักงานเก็บขยะของสนามบิน เล่าว่า ก่อนพบศพชายคนดังกล่าว ตนเข้ามานั่งกินข้าวช่วงพักกลางวันที่บริเวณนี้เป็นประจำทุกวัน แต่ขณะก้มเก็บของ สายตาเหลือบไปเห็นรอยเลือดยาว เข้าไปทางห้องครัว จึงเดินเข้าไปดู พบร่างชายนอนแน่นิ่ง จึงรีบวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ และแจ้งเจ้าหน้าที่ สำหรับจุดเกิดเหตุ เป็นพื้นที่หวงห้าม ไม่ให้คนนอกเข้า

นายนพฤกษ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ให้ข้อมูลว่า เมื่อเวลาประมาณ 7.00 น.วันนี้ เห็นรถเก๋งมาสด้า 2 สีแดง ไม่ทราบทะเบียน วิ่งเข้ามาจอดบริเวณที่พบศพ จากนั้นจึงบีบแตรไล่ เนื่องจากเป็นจุดหวงห้าม ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะขับออกไป แต่ก็ยังวนกลับเข้ามาอีกรอบ พอเห็นตน ก็วนรถออกไป

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า เบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีเอกสารติดตัว จึงยังไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหน และประเด็นการก่อเหตุยังไม่ทราบว่ามาจากเรื่องใด ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สภ.ท่าอากาศสุวรรณภูมิ และฝ่ายสืบสวน ภ.จว.สมุทรปราการ กระจายกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง รวมถึงพยานแวดล้อมต่างๆ และประสานเจ้าหน้าที่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง เพื่อดูอัตลักษณ์ของบุคคล ลักษณะรอยสักว่าเป็นกลุ่มของคนชาติใด รวมถึงนำเงินสกุลไทยที่ในประเป๋า 3,100 บาท ไปตรวจสอบดีเอ็นเอ เพื่อหาจุดเชื่อมโยงและเบาแสของผู้ก่อเหตุ


ขณะที่เพจข่าวสารเมืองปราการ ลงข้อมูลเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะรอยสักของผู้ตาย ปรากฏว่ามีช่างสักลายคนหนึ่งจำหน้าตาและรอยสักที่สักให้กับผู้ตายได้ ออกมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่าผู้ตายเป็นชาวไต้หวัน ไม่ทราบชื่อ แต่จำรอยสักนี้ได้ พร้อมทั้งส่งรูปถ่ายใบหน้าและรอยสักมาเทียบกับผู้ตาย ซึ่งปรากฏว่าเป็นรอยสักเดียวกันจริง สักมาจากร้านย่านพัทยา จ.ชลบุรี

ด้านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยความคืบหน้าทางคดี พบเบาะแสสำคัญหลายอย่าง เช่น ทะเบียนรถต้องสงสัยที่ก่อเหตุ ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนทราบหมายเลขทะเบียน และชื่อผู้ครอบครองแล้ว เป็นหญิงชาวปทุมธานี ส่วนเส้นทางก่อนพบศพ และหลังจากพบศพ พบว่ารถคันดังกล่าวขับใช้ถนนสายลาดกระบังมุ่งหน้าเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ สาย 4 ตรงไปจุดเกิดเหตุ โดยขับเข้ามาวนดูพื้นที่ก่อนช่วงตี 3 ก่อนจะมาทิ้งศพ หรืออาจจะลงมือฆ่าในจุดดังกล่าวช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังก่อเหตุใช้เส้นทางผ่านสนามบินขึ้นมอเตอร์เวย์ออกร่มเกล้า มุ่งหน้ามีนบุรี ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามเส้นทางหลบหนีของรถคันดังกล่าวแล้ว

ตร.มั่นใจปิดคดีนี้ได้ภายใน 3-5 วัน
ส่วนข้อมูลของผู้เสียชีวิต มีร้านสักออกมาให้ข้อมูลจากการตรวจสอบทราบว่า ป็นชาวไต้หวัน แต่ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุลที่ชัดเจน กำลังให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล ขณะเดียวกัน ได้แต่งตั้งให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เป็นหัวหน้าทีมคลี่คลายคดีนี้ และตั้งชุดสืบสวนทั้งตำรวจภูธรจังหวัด สืบภาค 1 สืบ ตม. สืบท่องเที่ยว และสืบพื้นที่ บูรณาการแบ่งงานเร่งหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้ ส่วนประเด็นสังหารยังไม่สามารถให้น้ำหนักเรื่องใดได้จนกว่าจะทราบผู้เสียชีวิตเป็นใคร แต่ ยืนยันไม่น่าเกี่ยวข้องกับแก๊งยากูซ่า มั่นใจจะสามารถปิดคดีนี้ได้ภายใน 3-5 วัน . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น