กรุงเทพฯ 20 ก.พ. – เลขาธิการส.ป.ก. สั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมามาช่วยราชการที่ ส.ป.ก. ส่วนกลางชั่วคราว จนกว่าการตรวจสอบแนวเขตพื้นที่พิพาทระหว่าง ส.ป.ก. โคราช และอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งกรมแผนที่ทหารดำเนินการอยู่จะแล้วเสร็จ รวมถึงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงชี้ชัด พร้อมทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดยุติการดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ชั่วคราว
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า ได้ออกคำสั่งให้นายอัครเดช เรียนหิน ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา นายวัฒวี วิเลิศรัมย์ นางปรียาภรณ์ เพิ่มแสงสุขกุล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 ในตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมารวม 6 คน มาช่วยราชการที่ส.ป.ก. ส่วนกลางเนื่องจากขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อสั่งการของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากนี้กรมแผนที่ทหารได้เข้าไปตรวจสอบแนวเขตเพื่อให้ทราบชัดเจนว่า ที่ดินบริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรืออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยกรมแผนที่ทหารแจ้งว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
สำหรับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีนายประพันธ์ คำบาง ผู้ตรวจราชการ ส.ป.ก. เป็นประธาน ส่วนกรรมการประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักจัดการปฏิรูปที่ดิน สำนักกฎหมาย และสำนักจัดการแผนที่และสารบบที่ดิน
นายวิณะโรจน์กล่าวว่า การให้มาช่วยราชการที่ส.ป.ก. ส่วนกลาง ไม่ใช่การเด้งหรือการย้าย แต่เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้แต่งตั้งรักษาราชการแทนปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาแล้ว หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก. กระทำผิดหรือบกพร่อง ต้องดำเนินการตามระเบียบและกฎหมาย แต่หากเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ต้องให้ความยุติธรรม
นายวิณะโรจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมายุติการดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ที่ยังมีความไม่ชัดเจนเรื่องแนวเขตจนกว่ากรมแผนที่ทหารจะตรวจสอบแล้วเสร็จ โดยต้องไม่ไปปักหมุดและชะลอการออกเอกสาร ส.ป.ก. 4-01
พร้อมระบุว่า การสำรวจเพื่อปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติในจังหวัดนครราชสีมาดำเนินการแล้วเกือบทุกพื้นที่ ยกเว้นโดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เนื่องจากมีความซับซ้อนเกี่ยวกับระเบียบและกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน หากดำเนินการเสร็จสมบูรณ์จะลดปัญหาการบริหารจัดการระหว่างหน่วยงานได้
หากผลปรากฏว่า พื้นที่ที่มีปัญหาขณะนี้ เป็นพื้นที่รับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะส่งคืน แต่หากเป็นพื้นที่ของส.ป.ก. จะพิจารณาเกี่ยวกับความเหมาะสมของการอนุญาตให้เกษตรกรเข้าใช้ประโยชน์อีกครั้งซึ่งร้อยเอกธรรมนัสย้ำว่า ให้คำนึงถึงสภาพพื้นที่ว่า เหมาะสมจะออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 หรือไม่ ถ้ามีสภาพเป็นป่าอาจใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่นที่เป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตามที่ส.ป.ก. เคยดำเนินการมาต่อเนื่องหลายปี
พร้อมยืนยันว่า ส.ป.ก. ไม่ส่งเสริมการทำลายป่าอย่างแน่นอน ตรงกันข้ามกลับส่งเสิรมการปลูกต้นไม้ในเขตปฏิรูปที่ดินเช่น โครงการวนเกษตร ส่วนการเปลี่ยนแปลงจากเอกสารส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร มีข้อกำหนดต้องปลูกต้นไม้เศรษฐกิจ ไร่ละไม่น้อยกว่า 10 ต้น ซึ่งกรมป่าไม้สนับสนุนกล้าไม้ให้แก่เกษตรกรผ่านศูนย์เพาะชำกล้าไม้ โดย ส.ป.ก. ปลูกป่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 45,000 ไร่ต่อปี.- 512 -สำนักข่าวไทย