ทำเนียบรัฐบาล 6 ก.พ.-นายกฯ ขอ กนง.พิจารณาลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 2.25 บอกขณะนี้รัฐบาลขับเคลื่อนได้เพียงนโยบาย เพราะต้องรองบ 67 เดือน พ.ค. ยันคุยผู้ว่าฯ ธปท. ตลอด ตรงไปตรงมา ไม่ก้าวร้าวต่อกัน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ว่า นโยบายการเงินและการคลัง ได้พูดคุยผ่านสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) อยู่แล้ว ทั้งเรื่องตัวเลข การประกาศเงินเฟ้อ และมาตรการลดค่าใช้จ่ายช่วยเหลือประชาชน เรื่องเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเป็นเรื่องใหญ่ แต่อย่าลืมว่าเงินเฟ้อที่ติดลบ ส่วนหนึ่งมาจากที่รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน ลดรายจ่าย แสดงให้เห็นว่าเรื่องเงินเฟ้อนั้นไม่มี แต่หากเกิดขึ้นก็เป็นเรื่องของต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้น แต่รัฐบาลสามารถคุมได้จึงทำให้ไม่มีเงินเฟ้อ แต่มาตรการที่จะขึ้นดอกเบี้ย หรือไม่ลดดอกเบี้ยก็ดูที่ความต้องการ หากไม่มีความต้องการก็ไม่มีเงินเฟ้อ แปลว่านี่คือความปลอดภัยที่จะเริ่มลดดอกเบี้ยได้แล้ว เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะหากลดดอกเบี้ยแล้วมีปัญหาเรื่องของความต้องการที่มีจำนวนมากอาจจะก่อให้เกิดเงินเฟ้อได้
“แต่จากที่ดูตัวเลขของทั้งสองด้านแล้ว เรื่องของราคาต้นทุนและเงินเฟ้อในอดีต เชื่อว่าพื้นที่การลดดอกเบี้ยมีอยู่จำนวนมาก ซึ่งได้พูดคุยอย่างชัดเจน เรื่องความเห็นต่างและทิฐิ ส่วนตัวนั้นไม่ทราบ แต่เรื่องตัวเลขเงินเฟ้อที่ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 เรื่องของมาตรการที่รัฐบาลพยายามช่วยเหลือประชาชน เป็นบรรเทารายจ่ายให้กับประชาชน แต่ขณะนี้รัฐบาลไม่มีงบประมาณที่นำมาใช้จ่ายได้ เนื่องจากงบประมาณปี 2567 ต้องรอเดือนพฤษภาคมก่อน ตอนนี้รัฐบาลขับเคลื่อนช่วยประชาชนได้แค่นโยบายอย่างเดียว ทั้งเรื่องฟรีวีซ่า นโยบายกระตุ้นลงทุนจากบริษัทข้ามชาติที่พยายามเข้ามาลงทุน จึงต้องการให้เกิดการลงทุน และกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น การลดดอกเบี้ยถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นภาระของค่าใช้จ่าย หากลดดอกเบี้ย อัตราการเกิดเงินเฟ้อก็แทบจะไม่มีความเสี่ยง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เหมือนเป็นการกระตุกแขน กระตุกขารัฐบาล เรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้สื่อมวลชนพิจารณาเอง แต่คิดว่ายังสามารถทำงานกันต่อไปได้ นโยบายการเงินการคลังต้องเดินควบคู่กันไป วันนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่ากรอบเงินเฟ้อติดลบ ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.5 ต้องลดลงไปเหลือร้อยละ 2.25 ก็ยังมีพื้นที่หากเกิดภาวะวิกฤติ
“ได้พูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ตลอด และพูดกันตรงไปตรงมา ไม่มีการก้าวร้าวต่อกัน ตัวเลขเป็นบทพิสูจน์อยู่แล้ว เห็นด้วยกันไม่มีใครมาถกเถียงว่าไม่จริง ไม่ตรง ต้องยอมรับว่าภาวะเงินเฟ้อไม่ใช่ปัญหา ดังนั้น การลดดอกเบี้ยต้องตระหนัก และขอฝากคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ที่จะประชุมกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ ว่า นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นคนกำหนดวัน คาดว่ากลางสัปดาห์หน้า และการประชุมนั้นสามารถเดินหน้าคู่ขนานกับการรอความเห็นจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้ ซึ่งคงจะมีคำแนะนำจาก ป.ป.ช. ในเร็ว ๆ นี้.-316.-สำนักข่าวไทย