ร้อดเอ็ด 2 ก.พ. – เด็ก 12 ขวบ ถูก ตร.เมาขับรถชน อาการยังวิกฤติ ญาติเผยเป็นเด็กดีช่วยดูแลผู้สูงอายุในบ้าน ขยันเรียน เตรียมเข้าค่ายวันนี้ แต่ต้องนอน รพ.
ความคืบหน้าอาการของเด็กวัย 12 ขวบ ที่ถูกดาบตำรวจเมาขับรถชนลากไปไกล 300 เมตร ที่ จ.ร้อยเอ็ด ญาติของเด็กให้ข้อมูลกับนักข่าวว่า อาการของน้องยังทรงตัว ถึงแม้จะได้สติ แต่น้องอยู่ในสภาวะขาดน้ำ และต้องให้เลือดพร้อมกับให้น้ำเกลืออยู่ตลอดเวลา หลังจากเมื่อคืนต้องเข้ารับการผ่าตัดในหลายส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ เพราะมีแผลทั้งตัวตั้งแต่ศีรษะ ใบหน้า ไปจนถึงเท้า เรียกว่าอาการสาหัส เพราะถูกลากเป็นระยะทางยาว และการสอบถามแพทย์ในเบื้องต้น ทราบว่าต้องดูอาการ ดูแลและทำแผลไปเรื่อยๆ ส่วนไหนที่เป็นเนื้อตายต้องตัดทิ้ง เพื่อรักษาอาการ และต้องดูแลใกล้ชิดแบบวันต่อวัน เนื่องจากรักษาทีเดียวไม่ได้ ต้องค่อยๆ รักษาไปทีละเรื่อง โดยเฉพาะแผลบริเวณใบหน้า ที่ถูกลากไปตามถนน จนเนื้อใบหน้าหายไปครึ่งหนึ่ง ส่วนสิ่งที่เป็นห่วง คือไม่แน่ใจว่าหากหายแล้ว น้องจะกลับมาอยู่ในสภาวะปกติหรือไม่ เพราะตอนนี้ยังใส่เครื่องช่วยหายใจ
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนเรื่องอาการของน้อง นักข่าวจึงได้ไปพูดคุยสอบถาม แพทย์เจ้าของไข้ ยืนยันว่า อาการของเด็กวัย 12 ขวบ ยังถือว่าอยู่ในสภาวะวิกฤติ เนื่องจากมีบาดแผลฉีกขาดทั้งตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณใบหน้าด้านซ้าย หน้าท้อง สะโพก แขนขา ล้วนยังอยู่ในสภาวะวิกฤติ เนื่องจากเสียเลือดมาก ความดันตก เกิดอาการช็อก และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
นักข่าวไปคุยกับครอบครัวของเด็ก ตาของเด็ก เล่าให้ฟังว่า ปกติน้องเป็นคนขยันเรียน เวลาว่างก็ช่วยงานบ้านทุกอย่าง แม้แต่ไปขายของก็ช่วย รวมทั้งดูแลอากง ผู้สูงอายุในบ้าน ส่วนวันเกิดเหตุ น้องออกไปซื้อของกับป้า เพื่อเตรียมไปเข้าค่ายลูกเสือวันนี้ แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัส ทำให้น้องต้องพลาดไปร่วมกิจกรรมกับโรงเรียน ยอมรับชีวิตหลานน่าสงสาร เพราะพ่อแม่แยกทางกันเมื่อ 4-5 ปีก่อน และเมื่อ 3 ปีก่อน แม่มาเสียไป ทำให้หลานต้องอยู่ในความดูแลของอากง และญาติๆ.-สำนักข่าวไทย