ทลายโรงงานผลิตลูกชิ้นเถื่อนย่านปทุมธานี 2 แห่งผลิต 9 ยี่ห้อ

กทม. 22 ม.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม อย. ทลายโรงงานผลิตลูกชิ้นเถื่อนย่านปทุมธานี 2 แห่งผลิต 9 ยี่ห้อ ส่งขายปทุมธานีและพื้นที่ใกล้เคียง ยึดของกลางกว่า 31 รายการ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., และเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปคบ. และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดย นพ.ณรงค์  อภิกุลวณิช เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมปฏิบัติการเข้าตรวจค้นทลายโรงงานลูกชิ้นเถื่อนย่านปทุมธานี ตรวจค้น 2 จุด ยึดของกลางกว่า 31 รายการ มูลค่ากว่า 210,000 บาท


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 กองกำกับการ4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้จับกุมโรงงานลูกชิ้นเถื่อนย่านปทุมธานี ซึ่งโรงงานดังกล่าวมีการส่งลูกชิ้นขายทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 10 แห่ง และได้ประชาสัมพันธ์จนเป็นกระแส “ลูกชิ้นสกปรก” ในสื่อออนไลน์แล้วนั้น

ต่อมาได้รับเรื่องร้องเรียนจากสื่อมวลชน สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม ให้ตรวจสอบการผลิตและจำหน่ายลูกชิ้นเถื่อนในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เนื่องจากสมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม ได้จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ โดยร่วมเปิดซุ้มแจกเมนูลูกชิ้นให้เด็กๆ รับประทาน ตามสถานที่ ต่างๆ ทั้งหน่วยงานของรัฐ และเอกชน ที่มีการจัดงาน ซึ่งได้รับความสนใจ จากเด็กและประชาชนจำนวนมาก แต่ปรากฎว่า มีผู้ปกครองเข้ามาสอบถามทีมงานผู้สื่อข่าวถึงที่มาของแหล่งลูกชิ้นกลัวจะเป็นลูกชิ้นสกปรกที่ถูกจับกุมและเป็นข่าวย่านปทุมธานี


เพื่อความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงสืบสวนหาข่าว พบว่าในพื้นที่ จ.ปทุมธานี มีโรงงานลักลอบผลิตลูกชิ้นเถื่อนอีก 2 แห่ง ย่าน จ.ปทุมธานี โดยลักลอบผลิตลูกชิ้นจำนวนมากในสถานที่ไม่ถูกสุขลักษณะ แพ็คบรรจุส่งขายตามตลาดในพื้นที่ จ.ปทุมธานี, กรุงเทพฯ และปริมณฑลหลายแห่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการลงพื้นที่สืบสวนจนทราบถึงแหล่งผลิตลูกชิ้นดังกล่าว

ต่อมาวันที่ 18 มกราคม 2567 เจ้าหน้าที่ได้ทำการขอหมายค้นใน ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จำนวน 2 จุด ได้แก่ 1.บ้านพักอาศัยหลังหนึ่ง ที่ดัดแปลงเป็นโรงงานผลิตลูกชิ้น ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบนายสุนทร แสดงตนเป็นเจ้าของกิจการผลิตภัณฑ์ และรับว่าทำมาแล้วเป็นเวลา 1 เดือน ตรวจยึด 1.ลูกชิ้นบรรจุถุงไม่มียี่ห้อ และลูกชิ้นยี่ห้อต่างๆ รวม 7 ยี่ห้อ จำนวนกว่า 2,000 ถุง 2.ถุงบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่ลูกชิ้น จำนวน 1,800 ใบ, 3. เนื้อไก่ 10 กิโลกรัม จำนวน 20 ถุง, 4. มันหมู 3 กิโลกรัม จำนวน 50 ถุง, 5. เครื่องบด จำนวน 1 เครื่อง, 6. เครื่องตีผสม จำนวน 1 เครื่อง, 7. เครื่องปั้นลูกชิ้น จำนวน 2 เครื่อง, 8. หม้อต้มลูกชิ้น จำนวน 2 ใบ และ 9. อุปกรณ์ในการผลิตลูกชิ้นพร้อมส่วนผสมต่างๆ ที่เป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 รวมกว่า 22 รายการ
 
2.บ้านพักอาศัยหลังหนึ่ง ที่ดัดแปลงเป็นโรงงานผลิตลูกชิ้น ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบนางสาวเพชรนภา แสดงตนเป็นเจ้าของกิจการผลิตภัณฑ์ และรับว่าทำมาแล้วเป็นเวลา 5-6 เดือน ตรวจยึด 1.ลูกชิ้นบรรจุถุงไม่มียี่ห้อ และลูกชิ้นยี่ห้อต่างๆ รวม 2 ยี่ห้อ จำนวนกว่า 400 ถุง 2.ลูกชิ้นเนื้อบรรจุถุงไม่ติดฉลาก 5 กิโลกรัม จำนวน 1 ถุง, 3. ถุงบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่ลูกชิ้น จำนวน 90 ใบ, 4. เครื่องบด จำนวน 1 เครื่อง, 5. เครื่องผสม จำนวน 1 เครื่อง, 6. เครื่องปั่นลูกชิ้น จำนวน 2 เครื่อง, 7. เครื่องผสม จำนวน 1 เครื่องและ 8. อุปกรณ์ในการผลิตลูกชิ้นพร้อมส่วนผสมต่างๆ ที่เป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 รวมกว่า 9 รายการ

รวมตรวจค้น 2 จุด ตรวจยึดลูกชิ้นยี่ห้อต่างๆ กว่า 2,400 ถุง, เครื่องจักร, บรรจุภัณฑ์ และส่วนผสมต่างๆที่ใช้ในการผลิตลูกชิ้น รวมกว่า 31 รายการ โดยในครั้งนี้ตรวจพบลูกชิ้นไม่มียี่ห้อและมียี่ห้อรวม 9 ยี่ห้อ


ในการตรวจค้นครั้งนี้พบว่าโรงงานดังกล่าวใช้แรงงานมนุษย์ในการผลิต ตวง และผสมส่วนผสมต่างๆ ซึ่งนายสุนทร และนางสาวเพชรนภา รับสารภาพว่า ได้ทำการผลิตลูกชิ้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากจาก อย.และ สสจ.ปทุมธานี แต่อย่างใด โดยลูกชิ้นหมูยี่ห้อดังกล่าวไม่แสดงเลขสารบบอาหาร (ไม่ผ่าน อย.) ซึ่งเนื้อหมูและเนื้อไก่ที่ใช้เป็นวัตถุดิบซื้อมาจากตลาดแล้วนำมาผลิตเป็นลูกชิ้นที่ไม่ได้มาตรฐานส่งขายให้ลูกค้าตามตลาดสดในพื้นที่ปทุมธานี, กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ตลาดรังสิต ตลาดคลองเตย ตลาดไทย เป็นต้น จากนั้นจะมีผู้ค้ารายย่อยมารับสินค้าไปกระจายต่ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งทั้ง 2 จุดมีกำลังการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลูกชิ้นวันละประมาณ 500 กิโลกรัม เฉลี่ยเดือนละ 15,000 กิโลกรัม

ทั้งนี้ได้เก็บตัวอย่างอาหารเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ หาสารบอแรกซ์ ชนิดและปริมาณวัตถุกันเสีย และจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค ณ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากพบสารต้องห้ามในอาหารเพิ่มเติม จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ฐาน“ผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์” ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ฐาน “จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง” ระวางโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
 
พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นผลมาจากการจับกุมโรงงานผลิตลูกชิ้นเถื่อนย่านปทุมธานี และประชาสัมพันธ์ผลการจับกุมให้ประชาชนรับทราบจนนำมาสู่การแจ้งเบาะแสให้ตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภันด้านการผลิตอาหารในครั้งนี้ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่าอย่าซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่ทราบที่มาของแหล่งผลิต ไม่ว่าจะเป็นการซื้อจากร้านค้าทั่วไป หรือแหล่งขายทางออนไลน์ เพราะอาจเกิดอันตรายจากการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ปลอดภัยต่อการบริโภค และขอเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบผลิตหรือจำหน่ายอาหารที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตหรือตัวแทนจำหน่าย ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด และหากพี่น้องประชาชนพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน บก.ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา.-413.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล