กรุงเทพฯ 21 ธ.ค.-ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เผยผลสำรวจช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ประชาชนกล้าออกมาจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวคึกคัก คาดจะมีเงินสะพัดมากกว่า 105,924.21 ล้านบาท ขยายตัว 2.8% สูงสุดในรอบ 4 ปี
รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ แถลงข่าวโพลพฤติกรรมและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ว่า ผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ สำรวจระหว่างวันที่ 10-16 ธันวาคม 2566 สำรวจประชากรกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศไทย จำนวน 1,258 ตัวอย่าง โดยได้ประเมินการใช้จ่ายมีมูลค่า 105,924.21 ล้านบาท ขยายตัว 2.8% สูงสุดในรอบ 4 ปี นับเป็นครั้งที่ 2 ที่มีเงินสะพัดเกินแสนล้านบาท
นอกจากนี้ พบว่าประชาชนมีการจับจ่ายในช่วงเทศกาลอย่างคึกคัก เป็นการกลับมาจับจ่ายที่มีความสุขในรอบ 4 ปี และจะส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น จากมาตรการที่รัฐบาลออกมาเป็นของขวัญปีใหม่ในหลายกิจกรรม ทำให้ประชาชนมีความสนใจที่จะออกมาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่นี้ โดยต่อคนจะมีการใช้จ่ายช่วงปีใหม่นี้ อยู่ที่ 6,000 บาท และท่องเที่ยวต่างประเทศมากกว่า 35,000 บาท/คน ทำให้คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในช่วงเทศกาลปีใหม่กว่า 105,924.21 ล้านบาท แยกเป็นการใช้จ่ายรวมด้านเลี้ยงสังสรรค์ ทำบุญ และอุปโภคบริโภค กว่า 19,418 ล้านบาท ซื้อสินค้าคงทนและสินค้าฟุ่มเฟือยกว่า 5,000 ล้านบาท ไปท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศกว่า 60,000 ล้านบาท เป็นต้น
นอกจากนี้ คำอวยพรที่ต้องการเห็น คือ ขอให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงหายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน และขอให้พระราชินีในรัชกาลที่ 9 และพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง พร้อมทั้งขอให้ตนเองมีรายได้ดีขึ้น ขอให้เศรษฐกิจและค่าครองชีพลดลง และอื่นๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมเทศกาลปีใหม่นี้ถือว่าคึกคัก ประชาชนจะออกมาจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น แต่ยังเป็นการจับจ่ายใช้สอยอย่างระมัดระวัง แม้ในปีหน้าหลายสำนักคาดการณ์จีดีพีไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยจะเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 3-4% แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเชื่อมากนัก เนื่องจากยังมองว่า ปัจจัยภายนอก เช่น เศรษฐกิจโลก สงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ยังไม่รู้ว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลง แม้เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะเติบโตขึ้น ดังนั้น สิ่งที่ประชาชนอยากเห็น คือ การแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบของรัฐบาลจะสามารถแก้ไขได้มากน้อยแค่ไหน.-514-สำนักข่าวไทย