กรุงเทพฯ 23 เม.ย. – หุ้นไทย เช้านี้บวก ตลาดลดกังวลสงครามการค้า นักวิเคราะห์มองแม้ไอเอ็มเอฟลดคาดการณ์จีดีพีไทยปี 68 แต่ยังสูงกว่านักวิเคราะห์ประเมิน ส่วนไทยถูกเก็บภาษีแผงโซลาร์ ก็ไม่กระทบมากนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นไทยเช้านี้เปิดบวกตามหุ้นเอเชีย โดยเมื่อเวลา 11.32 น. ดัชนีเคลื่อนไหว 1,158 จุด ปรับขึ้นจากวานนี้ 14.72 จุด หรือ 1.29% นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสายงานวิจัย บล.กรุงศรี กล่าวว่า หุ้นไทยบวกได้ตามตลาดโลก จากท่าทีผ่อนคลายของสหรัฐต่อจีน ทั้งรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ส่งสัญญาณว่าความขัดแย้งทางการค้ากับจีน “มีแนวโน้มคลี่คลาย” ช่วยคลายความกังวลในเชิงจิตวิทยาตลาดและหนุนดัชนีหุ้นสหรัฐฟื้นแรง รวมทั้งตลาดเอเชีย
ส่วนการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ นั้นมองว่า รัฐบาลไทยควรใช้นโยบายแบบสมดุล และเป็นกลางกับสหรัฐฯ และจีนให้ได้มากที่สุด เพื่อลดแรงกดดันจากทั้ง 2 ประเทศ ส่วนการที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีแผงโซลาร์เซลล์ของไทยสูงถึง 375% นั้น มองว่าจะส่งผลบวกต่อไทยในระยะกลาง-ยาว โดยบริษัทของไทยจะกระทบไม่มาก และยังเป็นการปรับเทรนด์การลงทุนของต่างชาติให้เกิดการผลิตจริงภายในประเทศไทย ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การรีแบรนด์จากจีนเป็นไทย ซึ่งในภาพรวมหากทุกอุตสาหกรรมปรับไปในแนวทางนี้จะเกิดภาพบวกกับเศรษฐกิจไทยในด้านการผลิตและส่งออก
ในขณะที่เศรษฐกิจของไทยในปีนี้ ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของจีดีพี โลกลดลงเหลือ 2.8% ส่วนใหญ่เกิดจากการปรับลดจีดีพี ของสหรัฐฯ ในปีนี้เหลือ 1.8% และในปี 2569 เหลือ 1.7% และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเข้าสู่ซอฟท์แลนดิ้ง ส่วนอาเซียนปรับลดลง 0.6% โดยไทยจะเติบโตเพียง 1.8% และโตต่ำสุดในอาเซียน เพราะไทยได้รับผลกระทบจากแผนดินไหวเพิ่มเติมจากผลกระทบจากภาษีการค้า
อย่างไรก็ตาม การปรับลดจีดีพีไทยของไอเอ็มเอฟ ไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดหุ้นไทย เพราะนักเศรษฐศาสตร์ของไทยปรับลดจีดีพีลงไปต่ำกว่านั้น โดยคาดว่าโตเพียง 1.5% หรือต่ำกว่า ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึมซับปัจจัยลบนี้ไปแล้ว แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลไทยจะเจรจาลดภาษีกับสหรัฐฯได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งมองว่าการเจรจาน่าจะเห็นผลบวก เพราะการที่สหรัฐฯ เปิดให้มีการเจรจาภายใน 90 วัน จะทำให้ภาพรวมของทุกประเทศมีอัตราภาษีที่ลดลงจากการประกาศในครั้งแรก ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ฟื้นตัวต่อเนื่องในกรอบแนวต้านที่ 1,167 จุด และแนวรับอยู่ที่ 1,137 จุด
“แม้ IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกและไทยลง แต่ตัวเลขยัง “ดีกว่าคาด” จึงหนุนให้ตลาดไทยฟื้นจาก Deep Value Zone ต่อไปได้ โดยเฉพาะเมื่อกระแสเงินทุนเริ่มกลับเข้ามาบ้าง ภายใต้ฐานการฟื้นตัวที่ยังมีแรงซื้อหนุนจากกลุ่ม Underowned และ Domestic-led plays ขณะที่ตลาดกำลังรอ Flash PMI สหรัฐ (คืนนี้) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สะท้อนผลของ Trade Tariff อย่างเต็มตัว กรณีต่ำ 50 จุด จะหนุน US Bond Yield ลดลง จับตาแนวต้าน 1,167 จุด ผ่านได้จะเริ่มทำให้ภาพระยะกลางเริ่มบวกอ่อนๆ มีโอกาสทดสอบ 1,200 จุด” นายกรภัทร กล่าว. -511-สำนักข่าวไทย