กู้ตึก สตง.ใหม่ถล่มได้แล้วเกือบ 70% ลดความสูงซากได้ต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ 23 เม.ย. – ผอ.สปภ. เผยคืบหน้าภารกิจกู้ซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่ม ปฏิบัติการคืบหน้าเกือบร้อยละ 70 สามารถลดระดับความสูงของซากอาคารลงมาได้ต่อเนื่อง


บรรยากาศบริเวณอาคาร สตง.ถล่ม เช้านี้ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการรื้อถอนซากอาคาร พร้อมกับค้นหาร่างผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง ทั้งเครื่องจักรหนัก และกำลังคน ยังคงสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำงานพร้อมทั้งฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่น โดยวันนี้มีการประชุมความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายและรื้อถอนซากอาคาร สตง.ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ที่กองอำนวยการร่วม นำโดย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร และส่วนที่เกี่ยวข้อง

นายสุริยชัย เปิดเผยถึงความคืบหน้าภารกิจกู้ซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่ม ว่า การลดความสูงของซากอาคารในภาพรวม เฉลี่ยแล้ว ลดลง 1.17 เมตร หากคงระดับนี้ได้จะอยู่ในระยะเวลาคาดว่าภายในสิ้นเดือนจะถึงชั้นที่ 1 ส่วนการทำงานจะมีการทำแผนของชั้นใต้ดินและมีการประชุมกับทางทีมงานแล้ว โดยเฉพาะฝ่ายช่าง ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะได้ไปดูหน้างาน ซึ่งตัวอาคารเดิมจะมีความกว้างยาวอยู่ที่ 40×40 เมตร ส่วนด้านข้างของซากอาคารด้านซ้ายซึ่งเป็นอาคารที่เชื่อมกันได้มีการรื้อออกและนำเศษปูนไปถมพื้นชั้นใต้ดินเพื่อจะนำรถเครื่องจักรหนักเข้าไปทำงาน จึงวางแผนเพื่อใช้พื้นที่ ในส่วนนี้มีการวางแผนจะนำเศษปูนออกเพื่อให้มีที่ว่างขุดด้านข้างของตัวชั้นใต้ดิน เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ระยะเวลาการทำงานไม่หายไปสามารถทำงานเสร็จสิ้นได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด


ส่วนการทำงานด้านล่างจะใช้การลดทอนความสูงจากด้านบน โดยที่บริเวณด้านบนจะมีการขุดแล้วนำเศษปูนออก จากนั้นจะตัดเหล็ก ที่ผ่านมามีการลดระดับลงเรื่อย ๆ ความสูงก็จะลดลงและความหนาก็จะหายไป หากดูจากหน้างาน ตัวด้านหน้าที่เคยบอกว่าเป็นโซน A กับ โซน D จะเหลือแค่ A4 กับ D1 ส่วนบริเวณโซน A1-A3 รวมถึงโซน D2-D4 ได้ลดลงหายไปแล้ว จึงยังเหลือพื้นที่ที่จะต้องดำเนินการบริเวณโซนด้านหน้าของโซน A และโซน D อีก 1 ใน 4 ส่วน สำหรับลดทอนความสูงที่โซน B และ โซน C จากความสูง 8.58 เมตร ลดเหลือ 7.41 เมตร ส่วนโซน A และโซน D จาก 9.78 เมตร ลดมาเหลือ 9.25 เมตร

ส่วนความยากของการค้นหา นายสุริยชัย บอกว่าความยากยังคงเหมือนเดิม คือตัวเหล็ก เพราะเครื่องมือ โดยเฉพาะเครื่องจักรหนักก็มีการเสีย เป็นระยะ เมื่อเสียก็จะมีการซ่อมแซม เมื่อวานนี้พบเสีย 8 เคส แต่เคสหนักๆ คือมีบูมหักของเครื่องจักรเบอร์ 18 ไม่สามารถซ่อมแซมได้ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวใหม่ ทำให้เครื่องจักรหนักหายไป 1 ตัว ส่วนเคสที่มีการซ่อมแซมไปเมื่อวานนี้เกี่ยวกับระบบไฮดรอลิกก็ได้มีการถอดเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอุปกรณ์ซ่อมแซมจะอยู่หน้างาน ช่วยให้การทำงานทำได้รวดเร็วขึ้น บางส่วนมีบุ้งกี๋แตกทำให้ต้องเสียเวลาในการเชื่อมโดยมีทีมช่างของกองอำนวยการช่างกลสำนักงานโยธา กรุงเทพมหานครจัดทีมช่างเข้ามาช่วยดำเนินการ

เมื่อถามถึงบริเวณช่องบันไดพบร่างผู้สูญหายเพิ่มเติมหรือไม่ นายสุริยชัย กล่าวว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณเที่ยงได้พบร่างจำนวน 2 ร่างบริเวณช่องบันได หลังจากนั้นยังไม่ได้พบเพิ่มเติมแต่จะมีพบชิ้นส่วนบางชิ้นส่วน ทั้งชิ้นส่วนเนื้อและชิ้นส่วนกระดูกจำนวน 4 เคส ทั้งนี้ผู้สูญหายที่เหลือคาดว่าน่าจะอยู่บริเวณชั้นล่างเพราะพฤติกรรมของคนจะวิ่งหนี ตามที่มีการคำนวณจะมีชั้นที่ต่ำกว่าชั้น 15 ลงไปจากข้อมูลมีคนทำงานอยู่ประมาณ 40 คน ซึ่งสอดรับกับข้อมูลที่คนจะวิ่งลงมาตามช่องบันไดเพื่อลงมายังชั้นล่าง ขณะนี้พบตัวช่องบันไดและป้ายของชั้น 11 แต่จัดการวิเคราะห์ตัวลิฟท์และตัวบันไดหนีไฟมีความแข็งจึงไม่แตกละเอียด การพบตัวเลขบอกบันไดเป็นส่วนหนึ่งในการนำมาวิเคราะห์แต่ยังไม่ยืนยันว่าระดับที่เจอเป็นระดับนั้นจริงๆ ทั้งหมดหากคิดจากความสูงกว่า 130 เมตร จากพื้นที่ความสูงของซากอาคารที่ลงมาที่ 26.8 เมตร รวมกับชั้นใต้ดินด้วยประมาณกว่า 31 เมตร ทำให้เฉลี่ยแล้ว 1 เมตรมีประมาณ 4 ชั้น แต่ขณะนี้ความสูงอยู่ที่ 7.41 เมตร บวกกับชั้นใต้ดินลึก 4 เมตร รวมเป็น 11 เมตร


ส่วนเครื่องมือหนักในขณะนี้มี 30 ตัว การวางแผนเมื่อวานนี้ การทำงานในช่วงกลางวันเนื่องจากตัวอาคารเริ่มแคบลง ทำให้การทำงานในช่วงกลางวันจะใช้เครื่องจักร 15 ตัว ส่วนกลางคืนจะทำงาน 1 ตัว ส่วนการมาช่วยของเอกชนจะมีการทำงานเพียง 1 ผลัด ส่วนของทหารและทางราชการทำงานได้ต่อเนื่องเพราะมีการสับเปลี่ยนกำลัง จัดการพูดคุยกับทีมอาสาสมัคร ยังคง สู้ และมีเป้าหมายเดียวกันคืออยากให้นำร่างออกมาให้ครบ และอยู่ด้วยกันจนจบงาน

ส่วนเช้าวันนี้เวลา 05.00 น. ใช้กำลังพล 107 คน K-9 จำนวน 3 ตัว ซึ่งจะมีการปูพรมค้นหาในเวลานี้ การค้นหาจะต้องทำด้วยความละเอียดรอบคอบในการนำร่างผู้ประสบภัยมาคืนให้กับญาติ เพราะยังมีการพบร่างและชิ้นส่วนบริเวณกองปูนอยู่เป็นระยะ ส่วนการขนย้ายซากอาคารทั้งเศษปูนและเหล็กได้มีการประเมินกับพื้นที่ที่รองรับไว้อยู่ว่าเพียงพอหรือไม่ ซึ่งทีมช่างยืนยันว่าเพียงพอจะมีการบริหารจัดการบีบอัดเหล็กให้แน่นขึ้นและยกขึ้นซ้อนกัน

นายสุริยชัย มองว่าการทำงานคืบหน้าประมาณ 70% การทำงานจะต้องเคลียร์พื้นที่รื้อออกทั้งหมด เพื่อให้ชัดเจนไม่มีอะไรตกค้าง เนื่องจากมีการมาแจ้งเพิ่มเติมกับทางพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับตัวเลขผู้ประสบภัย แต่จะต้องมีกระบวนการตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งจากข้อมูลขณะนี้ยังยืนยันยอดผู้สูญหายที่ 103 ราย โดยได้มีการหารือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ากระบวนการสอบสวนยืนยันข้อมูล จะต้องเสร็จพร้อมกับการรื้อถอนอาคาร ทั้งนี้จำนวนผู้สูญหายจากเหตุอาคารสตง.ถล่ม ยังคงข้อมูลเดิม คือส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวไทย ตามมาด้วยแรงงานเมียนมา และสัญชาติอื่น

ขณะที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร สรุปยอดผู้ประสบเหตุ 103 คน ในช่วง 10.00 น. ยืนยันผู้เสียชีวิตคงเดิม 53 ราย บาดเจ็บ 9 คน และผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหา 41 คน โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันนี้ จนถึงเวลา 10.00 น. ทีมค้นหาสามารถเก็บกู้ชิ้นส่วนอวัยวะ ผู้สูญหายได้เพิ่มเติม อีก 3 เคส และที่บริเวณ การรถไฟฯ ที่นำซากอาคารไปทิ้ง พบชิ้นส่วนอวัยวะอีก 1 เคส โดยอวัยวะส่วนใหญ่ที่พบเป็นกระดูกและชิ้นเนื้อ ได้นำส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อทำการพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคคลอีกครั้ง.-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]