28 พ.ย. – รัฐบาลเปิดทางลูกหนี้นอกระบบลงทะเบียนช่วยเหลือผ่านธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรกรฯ ในการออกเงินให้ในวงเงินตามความเหมาะสมในการแก้ไขหนี้นอกระบบ นอกจากการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบแล้ว รัฐบาลยังเปิดโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว
นายเศษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ร่วมแถลงวาระแห่งชาติ การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ
นายเศรษฐา กล่าวว่า จะทำให้โครงการนี้ให้ประชาชนลืมความลำบากและมีกำลังใจ คาดว่าปัจจุบันมีหนี้นอกระบบที่มีมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท โดยขอให้มีการขยายเวลาชำระหนี้ ด้วยการเปิดทางในการไกล่เกลี่ยหนี้ ซึ่งดอกเบี้ยต้องเป็นไปตามที่ทางการกำหนด คือ ห้ามเกินร้อยละ 15 อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ จะมีการแถลงหนี้ในระบบที่ต้องทำการแก้ไข เมื่อทั้ง 2 ระบบมาผสมกันจะทำให้การเป็นหนี้ยากขึ้น
ด้านนายอนุทิน กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบด้วยกลไกของกระทรวงมหาดไทยที่ใกล้ชิดประชาชนครอบคลุมทุกพื้นที่ ตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน มั่นใจว่าจะบูรณาการกับตำรวจได้ สำหรับหนี้นอกระบบ อยากให้ประชาชนที่มีปัญหากับการปรับเปลี่ยนแก้ไขหนี้จากนอกระบบเป็นหนี้ในระบบ ให้มาลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ณ ศาลากลางจังหวัด อำเภอ และสำนักงานเขตทุกแห่ง กระทรวงมหาดไทยจะรวบรวมข้อมูลปัจจุบันนำไปสู่การทำงานทุกภาคส่วนช่วยลูกหนี้
หลังจากปรับโครงสร้างหนี้และไกล่เกลี่ยหนี้ โดยธนาคารของรัฐ คือ ธนาคารออมสิน ที่มีโครงการอยู่แล้ว ให้กู้ต่อรายละไม่เกิน 50,000 บาท ระยะเวลา 5 ปี ส่วนโครงการสินเชื่อ อาชีพอิสระ ส่งเสริมอาชีพ ก็เป็นอีกโครงการ ให้กู้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย ในระยะเวลา 8 ปี ดอกเบี้ยเป็นไปตามความสามารถของลูกหนี้แต่ละคน และ ธ.ก.ส. รับฝากที่ดิน โดยมีวงเงินให้เกษตรกรต่อราย 2.5 ล้านบาท เมื่อมีการไกล่เกลี่ยกันเรียบร้อยแล้ว
ด้าน พล.ต.อ.ธนา กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งศูนย์ปราบปรามหนีนอกระบบ หาข้อมูลในพื้นที่ และส่งข้อมูลผู้ประกอบการหนี้นอกระบบ และบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด 134 ราย โดยเฉพาะผู้ใช้ความรุนแรง และยึดทรัพย์สิน เครือข่ายจำนำรถยนต์ ทั้งนี้ พร้อมประสานกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานอื่นๆ
ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าวันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาในวาระการขึ้นเงินเดือนข้าราชการแล้ว โดยนายแพทย์ พรหมมินทร์ เลิศสุรีย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เสนอปรับฐานเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ เพื่อให้แข่งขันกับภาคเอกชน ปรับให้ทันสมัยขึ้น หลักการใหญ่ๆ คือดูแลข้าราชการที่เข้าใหม่ โดยต้องปรับชดเชยจากกลุ่มอื่นๆ ให้เท่าเทียมกันอย่างมีแผนการ เพราะขณะนี้ยังมีช่องว่างอยู่ ระหว่างภาคเอกชนกับข้าราชการ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน Kick Off มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/2567 หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน หรือไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท ตามโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/2567 ซึ่งมีเป้าหมายเกษตรกร 4.68 ล้านครัวเรือน โดยจะมีการจ่ายเป็น 5 งวด เริ่มจ่ายวันนี้เป็นวันแรก ครอบคลุม 21 จังหวัด จนถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2566 จึงจะครบทั้ง 77 จังหวัด กรอบวงเงินรวมกว่า 54,336 ล้านบาท ผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร.-สำนักข่าวไทย