เร่งไล่ล่าคนร้ายปะทะเดือดปัตตานี เจ้าหน้าที่ ดับ 4 นาย

ปัตตานี 29 ส.ค. – เร่งไล่ล่าคนร้ายลอบวางระเบิด-กราดยิง เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4 นาย ขณะลาดตระเวน ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี คาดตอบโต้หลังกลุ่มสมาชิกถูกวิสามัญ ด้านแม่ทัพภาค 4 สั่งเข้มเฝ้าระวังพื้นที่ล่อแหลม


เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับคนร้ายที่ดักซุ่มโจมตี เกิดขึ้นเมื่อ 23.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี จำนวน 6 นาย พร้อมด้วย อส.อำเภอยะรัง 2 นาย ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ลาดตระเวนเส้นทางดูแลความปลอดภัยให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลยะรัง ม.3 ต.ยะรัง อ.ยะรัง คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ได้กดระเบิดทำให้รถของเจ้าหน้าที่เสียหาย จากนั้นคนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงทันที ทำให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ต้องยิงตอบโต้ จนเกิดการปะทะกันนานกว่า 30 นาที ก่อนคนร้ายจะหลบหนี ไม่เพียงเท่านั้น คนร้ายอีกกลุ่มซึ่งกระจายกำลังเข้าอยู่ตามจุดต่างๆ ได้กดระเบิดแสวงเครื่อง ทำลายเสาไฟฟ้าในหลายจุด ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งอำเภอ และคนร้ายก็ฉวยโอกาสในความมืด หลบหนีไป

หลังเสียงปืนสงบ พบเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 นาย คือ ด.ต.ตุแวเลาะ ลอมะ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ยะรัง อส. ชาญวิทย์ ดอเลาะ และ อส.ณรงค์ หระแก้ว และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 1 นาย คือ ส.ต.ท.บุญกีนี ดือเร๊ะ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บ 4 นาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี คือ ส.ต.ท.อิสมาแอ็น จิตหลัง, ส.ต.ท.ศราวุฒิ สูสัน, ส.ต.ต.ธนทัต โชคมาก และ ส.ต.ต.ธวัช เส็นฤทธิ์ นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน ซึ่งมีเด็กชายรวมอยู่ด้วย


หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้ปิดล้อมเส้นทางเข้าออกในพื้นที่เกิดเหตุทุกเส้นทาง พร้อมวางกำลังเข้ม เพื่อความปลอดภัยจากเหตุไม่คาดคิด เพราะคนร้ายอาจจะวางระเบิดซ้อนเพื่อหวังทำร้ายเจ้าหน้าที่ ที่เข้ามาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าชุดพิสูจน์หลักฐาน และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้ตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด พร้อมเก็บหลักฐานที่จะเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มคนร้าย เบื้องต้น พบรถยนต์ตำรวจ ถูกกระสุนและสะเก็ดระเบิดเสียหายทั้งคัน และตัวอาคารสำนักงานเทศบาลมีร่องรอยกระสุนเต็มไปหมด ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน ตก กว่า 100 ปลอก และพบชิ้นส่วนระเบิดชนิดขว้าง ยังไม่ทราบชนิด

ส่วนเสาไฟฟ้าถูกระเบิด เสียหาย 3 จุด จุดที่ 1 เส้นทางหมายเลข 4061 ในพื้นที่ ต.ระแว้ง อ.ยะรัง เสาไฟฟ้าหักโค่น 2 ต้น และเสาไฟโซลาร์เซลล์ 1 ต้น ล้มขวางถนน ในพื้นที่รอยต่อ ม.4 และ ม.5 ต.ระแว้ง จุดที่ 2 บริเวณถนนหมายเลข 410 ในพื้นที่ ต.กระโด ม.2 เขตรอยต่อ ต.เมาะมาวี ม.1 เสาไฟฟ้าถูกระเบิดเสียหาย 1 ต้น จุดที่ 3 ริมถนน 410 ม.5 ต.ยะรัง เสาไฟฟ้าแรงสูงถูกระเบิดเสียหาย โดยเหตุระเบิดเสาไฟฟ้าทั้ง 3 จุด ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เดือดร้อนหนัก เพราะไม่มีไฟฟ้าใช้มาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ตอนนี้ ทางการไฟฟ้ากำลังเร่งแก้ไขปัญหาซ่อมแซมระบบไฟฟ้าให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด

เหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า กลุ่มคนร้ายวางแผนเตรียมการณ์มาเป็นอย่างดี เพื่อต้องการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ และเป็นการตอบโต้ หลังกลุ่มสมาชิกถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนักและถูกวิสามัญในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ สถานการณ์ในพื้นที่ยังคงตรึงกำลังเข้มเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายระดมกำลัง ตั้งด่านตรวจอย่างเข้มงวด ทั้งเส้นทางสายหลัก และเส้นทางรอง เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับชาวบ้านในพื้นที่ รวมทั้งกระจายกำลังปิดล้อมพื้นที่เป้าหมาย เพื่อไล่ล่าจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้


ด้านพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่เกิดเหตุ แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และกำชับให้ช่วยเหลือเยียวยาเต็มที่ พร้อมสั่งเร่งติดตามคนร้าย และเฝ้าระวังพื้นที่ล่อแหลม พร้อมปรับมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยในแหล่งชุมชน

นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นเบาะแสของกลุ่มคนร้ายสามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจำพื้นที่ หรือ หมายเลขสายด่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือหมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยทุกเบาะแสที่แจ้งเข้ามาจะถูกปิดเป็นความลับ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.บังคับใช้ 7 มาตรการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง

ผบ.ตร. บังคับใช้ 7 มาตรการเข้มข้น แก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง ถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำชัดให้เห็นผลภายใน 7 วัน หากพบเจ้าหน้าที่มีเอี่ยวหรือบกพร่อง ฟันเด็ดขาด

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

ตร.สอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ปิดจบสยบ Fiwfans”

ตำรวจสอบสวนกลาง “เปิดปฏิบัติการปิดจบสยบ Fiwfans (ฟิวแฟน)” เว็บไซต์ค้ากามเด็กออนไลน์ จับแอดมิน 5 ราย ดำเนินคดี พบในรอบ 4 ปี มีหญิงค้าประเวณีผ่านเว็บไซต์กว่า 40,000 ราย อายุต่ำสุด 15 ปี พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มาตรการสู้ฝุ่น

ขานรับมาตรการสู้ฝุ่น เช้าวันทำงาน “รถไฟฟ้า-รถเมล์” ขึ้นฟรี

“รถไฟฟ้า-รถเมล์” ฟรีตามมาตรการสู้ฝุ่น เช้าวันทำงาน พบส่วนใหญ่เลือกนั่งรถฟรี ประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนรถไฟฟ้าคนแน่น ขณะที่โรงเรียน กทม. 437 แห่ง เปิดเรียนตามปกติ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาฯ กทม.อากาศเย็นตอนเช้า-ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาฯ กับมีลมแรง ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล

เมย์วิวคว้าแชมป์แบด

“เมย์-วิว” คว้าแชมป์อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส

“น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ และ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ คว้าแชมป์แบดมินตันอินโดนีเซีย มาสเตอร์ส ในประเภทหญิงเดี่ยวและชายเดี่ยว