กรุงเทพฯ 2 ก.ค.-เลขาฯ IAA คาดเจรจาสหรัฐได้ข้อสรุปทันเส้นตาย 9 ก.ค.68 หากถูกเรียกเก็บภาษีเกิน 20% อาจช็อกทั้งตลาดทุน-ตลาดธุรกิจ ยอมรับสถานการณ์เมืองกระทบหนักความเชื่อมั่นนักลงทุน
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) กล่าวถึงกรณีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง นำทีมเดินทางเจรจามาตรการทางภาษีกับสหรัฐฯ ก่อนที่จะสิ้นสุดระยะเวลาผ่อนผันในวันที่ 9 กรกฏาคมนี้ โดยระบุว่าในความคาดหมายเบื้องต้น น่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากใกล้ถึงเส้นตายในกรอบเวลาผ่อนผัน มีโอกาสจะทราบผลได้เร็ว ถือเป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ตาม ขึ้นกับผลลัพธ์ด้วยว่าไทยจะโดนอัตรภาษีเท่าใด มองว่าตลาดคาดการณ์อัตราการถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 15-20% แต่ถ้าหากถูกเรียกเก็บภาษีมากกว่านี้ อาจทำให้ทั้งตลาดหุ้นและตลาดธุรกิจช็อคหรือตกใจได้ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปทันกำหนดในวันที่ 9 ก.ค. แต่ หากจะยืดเยื้อมองว่า สหรัฐอาจจะเรียกเก็บภาษีในอัตราระดับหนึ่ง และอาจยืดระยะเวลาออกไปอีก 30 วัน เป็นต้น แต่อย่างน้อยจะเห็นทิศทางว่าจะเป็นอย่างไร
ยอมรับสถานการณ์ทางการเมืองเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบมากต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน ในขณะนี้ เนื่องจากมีหลากหลายเรื่องที่เกิดขึ้นไม่คาดฝัน จึงตัองจับตาว่ารัฐบาลจะสามารถเดินหน้าออกมาตรการยกระดับกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม มองว่างหากมีการลดอัตราดอกเบี้ย ยังเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยได้ นักลงทุนต้องติดตามปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องมาถึงการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งกำไร บจ.มีผลสำคัญมากต่อราคาหุ้น
ด้านนายพิธีริยพล คงวาณิช นักกลยุทธ์ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนเพื่อบริหารความมั่งคั่ง บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฎิบัติหน้าที่ ส่งผลทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลว่าจะไม่เกิดรัฐประหาร โดยมองว่านักลงทุนเกิดความไม่เชื่อมั่น ตั้งแต่มีคลิปเสียงหลุดของนายกรัฐมนตรี คุยกับผู้นำประเทศกัมพูชา ซึ่งมีความเสี่ยงที่สถานการณ์ทางการเมืองจะนำไปสู่การรัฐประหารหรือไม่ แต่พอศาลฯ มีมติให้นายกรัฐมนตรี หยุดปฎิบัติหน้าที่ ก็ส่งผลให้สถานการณ์ที่เป็นความเสี่ยงโดยเฉพาะการเคลื่อนไหวทางการเมืองเบาลง แต่หากจะทำให้ตลาดหุ้นกลับมาปกติหรือดีขึ้นมากกว่านี้ การเมืองต้องมีเสถียรภาพ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ใช่.-516-สำนักข่าวไทย